เมื่อ 31 พ.ค.2558 เวลา 09.00 น. ที่ศาลอาญา นายกิตติก้อง คณาจันทร์ ผอ.ส่วนคดีปราบปรามยาเสพติด 2 สำนักคดีอาญาพิเศษ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำตัว
น.ส.ชไมพร ไม้สีทอง อายุ 38 ปี
ผู้ต้องหาที่ 3 บุคคลตามหมายจับ ข้อหาความผิดฐาน
ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
ฝากขังต่อศาลอาญา
จากข้อกล่าวหาที่ได้หลอกลวงผู้เสียหาย 17 ราย ให้ร่วมลงทุนซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟนและไอแพด ความเสียหายประมาณ 57 ล้านบาท
โดยมีผู้ต้องหาทั้งหมดอีก 2 คนประกอบด้วย
1. นางวรรณวิไล วัฒนศิริวิบูลย์
2. น.ส.อภิรดี ธนารักเกียรติ์
น.ส.ชไมพร ไม้สีทอง อายุ 38 ปี
ผู้ต้องหาที่ 3 บุคคลตามหมายจับ ข้อหาความผิดฐาน
ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
ฝากขังต่อศาลอาญา
จากข้อกล่าวหาที่ได้หลอกลวงผู้เสียหาย 17 ราย ให้ร่วมลงทุนซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟนและไอแพด ความเสียหายประมาณ 57 ล้านบาท
โดยมีผู้ต้องหาทั้งหมดอีก 2 คนประกอบด้วย
1. นางวรรณวิไล วัฒนศิริวิบูลย์
2. น.ส.อภิรดี ธนารักเกียรติ์
ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับ
นายกิตติก้อง เปิดเผยว่า เมื่อเดือน มกราคม 2555 ผู้ต้องหาทั้งสาม ได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหาย โดยอ้างว่ารู้จักกับบุคคลในบริษัทขายโทรศัพท์รายใหญ่แห่งหนึ่ง สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปประมาณ 3,000-4,000 บาท เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินมาลงทุนเพื่อซื้อมือถือไอโฟนและไอแพด ไปขายต่อ
ช่วงแรก จะได้สินค้าไปจำหน่ายต่อจริง แต่ต่อมาเมื่อสั่งเพิ่มขึ้น น.ส.ชไมพรและพวก จะอ้างเรื่องความยากลำบากในการขนส่งเป็นจำนวนมาก และเสนอกับผู้เสียหายว่าจะนำสินค้าไปขายตามร้านให้ โดยผู้เสียหายทำเพียงโอนเงินให้กลุ่มผู้ต้องหา แล้วจะได้รับผลตอบแทน ช่วงแรกจะได้ผลตอบแทนดี จำนวน 1-2 ครั้งเท่านั้น จากนั้นจะไม่ได้รับผลตอบแทนอีก ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย
จากการตรวจสอบประวัติ น.ส.อภิรดี พบว่าเคยต้องโทษในคดีความผิดลักษณะนี้มาก่อน
นายกิตติก้อง เปิดเผยว่า เมื่อเดือน มกราคม 2555 ผู้ต้องหาทั้งสาม ได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหาย โดยอ้างว่ารู้จักกับบุคคลในบริษัทขายโทรศัพท์รายใหญ่แห่งหนึ่ง สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปประมาณ 3,000-4,000 บาท เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินมาลงทุนเพื่อซื้อมือถือไอโฟนและไอแพด ไปขายต่อ
ช่วงแรก จะได้สินค้าไปจำหน่ายต่อจริง แต่ต่อมาเมื่อสั่งเพิ่มขึ้น น.ส.ชไมพรและพวก จะอ้างเรื่องความยากลำบากในการขนส่งเป็นจำนวนมาก และเสนอกับผู้เสียหายว่าจะนำสินค้าไปขายตามร้านให้ โดยผู้เสียหายทำเพียงโอนเงินให้กลุ่มผู้ต้องหา แล้วจะได้รับผลตอบแทน ช่วงแรกจะได้ผลตอบแทนดี จำนวน 1-2 ครั้งเท่านั้น จากนั้นจะไม่ได้รับผลตอบแทนอีก ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย
จากการตรวจสอบประวัติ น.ส.อภิรดี พบว่าเคยต้องโทษในคดีความผิดลักษณะนี้มาก่อน
โดยดีเอสไอ ได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวของผู้ต้องหา เนื่องจาก เป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ความเสียหายมูลค่าสูง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น