ชุดปฏิบัติการ TICAC จับหนุ่มวัย 20 ปี ล่อลวงข่มขู่ทางเพศเด็กหญิงวัย 13 ปี ผ่านเฟซบุ๊ค

14/6/63
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 12 มิ.ย.63 เวลา 06.00 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต หรือ TICAC 
ภายใต้การอำนวยการ ของ พ.ต.อ.ฐากูร นิ่มสมบุญ รอง ผบก.ปคม./หัวหน้าชุดปฏิบัติการส่วนกลาง 
ชุดจับกุมประกอบด้วย พ.ต.อ.สุนทร อรุณนารา รอง ผบก.ฯ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ TICAC ทีม 1
พ.ต.ท.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ รอง ผกก.ป.สน.บางยี่เรือ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ TICAC ได้ร่วมกันจับกุม

นายอนุกูล หรือตูน (ปกปิดนามสกุล) อายุ 20 ปี ที่อยู่  ม.5 ต.ชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี 

ดำเนินคดีข้อหา

- ชักจูงยุยงส่งเสริมให้เด็กกระทำการอันมีลักษณะลามก
- ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กฯ

พร้อมของกลาง  โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งความจากเด็กหญิงผู้เสียหาย อายุ 13 ปี จำนวน 2 คน ชาว จ.ราชบุรี และกาญจนบุรีตามลำดับ ว่า ถูกชายในเฟซบุ๊คชื่อ "สายเงี่ยน" และ "เงี่ยนจังอยากดูหี" และชื่ออื่น ๆ อีกหลายชื่อ  ซึ่งเข้าใจว่าเป็นคนเดียวกัน แชตข่มขู่จะนำคลิปเปลือยที่เคยถูกชายดังกล่าวชักชวนช่วยตัวเองผ่านเว็บแคม แล้วแอบบันทึกไว้ จะนำไปโพสต์ในเฟซบุ๊คเพื่อน พ่อแม่และคนรอบตัว เพื่อประจานให้เกิดความอับอาย และถูกพ่อแม่ลงโทษ ทำให้เด็กเกรงกลัว  เพื่อบังคับให้เด็กจำยอมช่วยตัวเองผ่านเว็บแคม และล่วงละเมิดทางเพศตามที่ชายดังกล่าวข่มขู่สั่งให้ทำ
เด็กทั้งสองคนจึงขอความช่วยเหลือกับ จนท.ตร.ผ่านเพจเฟซบุ๊ค TICAC

จากการสืบสวน จนท.ตร.ชป.TICAC ทราบว่านายอนุกูลฯ คือผู้ก่อเหตุ จึงนำหมายค้นศาลจังหวัดราชบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 31 ม.5 ดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ มือถือของกลาง ที่มีสื่อลามกเด็กที่ถูกนายอนุกูลฯ แอบบันทึกไว้จำนวนมาก และพบบัญชีเฟซบุ๊ค 8 บัญชี ที่สร้างไว้เพื่อใช้แชตลวงเด็ก และมีเด็กหญิงเป็นเพื่อนหลายพันคน  จับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ดำเนินคดี

สอบสวนนายอนุกูล ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าว และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนขยายผลหาตัวผู้เสียหายรายอื่นมาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
Read more ...

จับโจรมอมยาหมอนวด

9/2/63
เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ตำรวจกองกำกับการสืบสวน จังหวัดระยอง

จับกุม

นายจรณบูรณ์ กุลให้ อายุ 46 ปี 

ข้อหา ชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยการมอมยา

พฤติการณ์

เมื่อ 31 ม.ค.63 พื้นที่ สภ.แกลง จ.ระยองและ
เมื่อ 1 ก.พ.63 พื้นที่ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง
นายจรณบูรณ์ แสดงตัวเป็นชาวต่างชาติ เข้าไปนวดตามร้านนวดแผนโบราณในพื้นที่ จ.ระยอง
แล้วชักชวนหมอนวดดื่มสุราหรือสปายที่ใส่ยานอนหลับที่เตรียมมาด้วย
เมื่อหมอนวดหมดสติ ก็ลักทรัพย์สินของหมอนวดหลบหนีไป
มีหมอนวดตกเป็นเหยื่อจำนวนหลายคน

ตำรวจติดตามไปจับกุมได้
พบก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง
เคยถูกจับกุมติดคุกมาแล้ว
จึงจับกุมส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
Read more ...

จับแล้ว! ไฮโซกำมะลอ ลวงสาวแต่งงาน อ้างนักการเมือง ก่อนปอกลอกหมดตัว

8/1/63
โดยข่าวสด เมื่อ 8 ม.ค.63

จับแล้ว! ไฮโซกำมะลอ ลวงสาวแต่งงาน อ้างนักการเมือง ก่อนปอกลอกหมดตัว

ไฮโซกำมะลอ / จากกรณีสาวผู้เสียหาย 3 รายร้องกองปราบ จี้จับ

นายภัควรรธน์ วัฒนานนท์ หรือ หนึ่ง อายุ 36 ปี 

หนุ่มแสบลวงขอแต่งงาน ก่อนหลอกลวงเอาเงินและทรัพย์สินมีค่าของผู้เสียหายไปเป็นจำนวนมาก โดยจะติดต่อขอรู้จักผ่านโปรแกรมหาคู่ของแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก

ตอนแรกอ้างตัวว่าเป็นนักธุรกิจฟาร์มเพาะพันธุ์สุนัข ไฮโซ เซียนพระ ช่างภาพอิสระ มีฐานะดี ทำให้หลงเชื่อใจและคบหากันได้ประมาณ 3 เดือน จากนั้นนายภัควรรธน์ให้แม่มาสู่ขอแต่งงาน โดยบอกว่าเรื่องเงินสินสอดไม่มีปัญหา

แต่เมื่อถึงวันงานแต่งจริงได้บอกว่าไม่ได้เตรียมเงินสินสอดมา เพราะติดปัญหาบางอย่าง พร้อมกับให้ตนออกค่าใช้จ่ายไปก่อนจำนวน 3 แสนบาท อ้างว่าจะคืนให้ภายหลัง สุดท้ายนายภัควรรธน์ไม่คืนเงินให้ ระหว่างอยู่กินด้วยกัน นายภัควรรธน์ยังขอยืมเงินไปอีก 1.5 แสนบาท อ้างว่าแม่ป่วยต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล รวมถึงยังหลอกให้ไปดาวน์รถยนต์ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท

สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ตำรวจ บก.น.8 ติดตามจับกุมตัวนายภัควรรธน์ ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านราษฎร์บูรณะ ก่อนจะนำตัวมาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีต่อที่ สน.บางรัก ทางพนักงานสอบสวนของกองปราบ จึงประสานให้ผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความกับทางตำรวจท้องที่ เพื่อให้มีการอายัดตัวดำเนินคดีเพิ่มต่อไป

Read more ...

จากเด็กหญิงเป็นแม่ของลูก 9 คน ถูกพ่อเลี้ยงลักพา-กักตัว 19 ปี

4/12/62
 



คมชัดลึก เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2562

โดย...บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์

อีกหนึ่งโศกนาฎกรรมซ้ำซากของผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อกามจากฝีมือของคนใกล้ตัว ผู้มีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยงที่มีอายุแก่กว่าถึงเกือบ 30 ปี กระทั่งมีลูกด้วยกันถึง 9 คน แต่ลูกทุกคนล้วนแล้วแต่ถูกพ่อแท้ๆจับเป็นตัวประกันขู่จะเอาชีวิตหากแม่คิดจะหลบหนี

นรกบนดินของ

โรซาลีน แมคกินนีส ชาวอเมริกันเชื้อสายไอริช

เริ่มขึ้นเมื่อแม่ของเธอแต่งงานใหม่กับ

เฮนรี พีท 

หลังจากนั้นไม่นาน เธอซึ่งขณะนั้นมีอายุแค่ 10 ปีเศษก็ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนภายในบ้านที่แวกอนเนอร์ รัฐโอกลาโฮมา ส่วนแม่ก็กลายเป็นถุงกระสอบทรายให้พ่อเลี้ยงซ้อม จนแม่ทนไม่ไหว พยายามขอหย่าทั้งๆที่แต่งงานได้ไม่ถึงปีเต็ม แต่ไม่เป็นผล แม่จึงหอบหิ้วเธอและน้องชายหนีไปอยู่กับยายที่รัฐมิสซูรี

อย่างไรก็ดี พีทก็สามารถตามหาพวกเธอจนพบ แล้วบังคับให้กลับไปอยู่ที่โอกลาโฮมาดังเดิม โดยบังคับให้อยู่ในเต๊นท์ในเมืองเล็กๆอีกเมืองหนึ่ง แต่แม่ของเธอพยายามพาลูกๆหนีอีกครั้ง ครั้งนี้หนีไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงผู้หญิงที่เมืองโปทู

แต่สัตว์ร้ายในคราบคนอย่างพ่อเลี้ยงของเธอก็ไม่ละความพยายามที่จะแก้แค้น 

ตอนที่โรซาลีน แมคกินนีส มีอายุยังไม่เต็ม 12 ปีดี ก็ถูกพีทลักพาตัวจากโรงเรียนที่เมืองโปตู รัฐโอกลาโฮมาเมื่อปลายเดือนมกราคม 2540 

เขาพาเธอไปที่ห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง จัดแจงปลอมตัวเธอด้วยการย้อมผมสีดำและให้สวมแว่น แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่

เกือบทุกวันเธอถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ ถูกล่วงละเมิดทางเพศวันละหลายรอบ ก่อนบังคับเธอให้ขึ้นรถแวนขับข้ามแดนไปเม็กซิโก ที่นี่เองที่เธอแท้งลูกคนแรกทั้งๆ ที่อายุแค่ 12 ปีเท่านั้น และพีทได้บังคับให้เธอนำตัวอ่อนไปทิ้งในชักโครก แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ท้องอีกและคลอดลูกคนแรกขณะมีอายุแค่ 15 ปี จากนั้นเธอถูกบังคับให้เข้าพิธีแต่งงานด้วย

นับแต่นั้นมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี โรซาลีน แมคกินนีส ต้องใช้ชีวิตอย่างสุดแสนลำบาก ไม่มีบ้านพักเป็นหลักแหล่ง ต้องอาศัยอยุ่ในเต๊นท์ ช่วงที่ต้องโยกย้ายที่อยู่หลายสิบครั้งไปตามประเทศต่างๆในอเมริกากลางและเม็กซิโกเพื่อหลบหนีการตามล่าของทางการ โดยใช้ชื่อปลอมหลายสิบชื่อและยังบังคับให้เธอต้องใช้ชื่อปลอมและปลอมตัวอีกด้วย

จากรายงานของสำนักอัยการสหรัฐระบุว่า ตลอดช่วงเกือบ 20 ปี พีทได้ควบคุมเหยื่อด้วยความรุนแรงเยี่ยงสัตว์และการล่วงละเมิดทางเพศเพื่อให้เธอและลูกๆหวาดกลัวจนไม่กล้าขัดขืนคำสั่งใดๆ ขณะที่แมคกินนีส เผยเพิ่มเติมว่าถูกพีททำร้ายร่างกายทั้งด้วยด้ามพานท้ายปืนไรเฟิล,ไม้เบสบอลและกระป๋องเบียร์ ล่าสุดก็ใช้กะทะสแตนเลสฟาดเธอที่ท้อง แต่เธอได้ใช้มือปกป้อง กระทั่งถูกบาดเป็นแผลลึกถึงกระดูก

”เหตุผลเดียวที่พวกลูกๆยังมีชีวิตอยู่ก็เพราะฉันยังมีลมหายใจอยู่ ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาจะฆ่าลูกทุกคน...ทุกครั้งที่เขาทำร้ายลูก ฉันต้องเข้าไปขวางไว้แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็สุดแสนจะเลวร้ายมาก ถ้าคุณคิดถึงรูปแบบการทำร้ายทุกวิธีเท่าที่คุณคิดได้ นั่นแหล่ะคือสิ่งที่เขาทำกับฉัน”

ช่วงเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นตอนที่เธอต้องผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก เธอนอนในเต๊นท์ในชนบทที่สุดแสนกันดารที่เม็กซิโกด้วยความเจ็บปวดเนื่องจากอุปกรณ์การผ่าตัดแสนจะล้าสมัย แต่แทนที่จะได้พัก พีทกลับบังคับให้เธอลุกขึ้นทำงานต่อตามปรกติ แต่เมื่อเห็นเธอทำงานชักช้าไม่ทันใจ เขาก็ระเบิดอารมณ์รุนแรง ตรงเข้ามาทำร้ายเธอโดยไม่คิดว่าเธอเพิ่งจะผ่าตัดมาใหม่ๆ วินาทีนั้นเองเธอก็ได้คิดและตัดสินใจว่า ถ้าไม่หนีให้พ้น เธอคงจะเป็นบ้าหรือตายเสียก่อนแล้วปล่อยให้ลูกๆต้องเผชิญกับชะตากรรมกับสัตว์ร้ายผู้นี้

ในที่สุด สวรรค์ก็เริ่มมีตา ชักนำให้แมคกินนีสได้รู้จักกับ ลิซาและเอียน สองสามีภรรยาในเม็กซิโกในตอนกลางปี 2559 ลิซาเป็นชาวอเมริกัน ส่วนเอียนเป็นชาวอังกฤษ ทั้งสองคนพบเธอและลูกๆที่ผอมแห้งเหมือนหนังหุ้มกระดูก รวมทั้งพีท กำลังซื้อของใช้จำเป็นที่ร้านชายของชำร้านหนึ่งในเม็กซิโก สองสามีภรรยาคู่นั้นเริ่มได้กลิ่นว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิดปรกติ เพราะท่าทีของพีทนั้นแสดงถึงท่าทีที่ไม่เป็นมิตรกับใครและไม่ต้องการให้ใครๆเข้ามาใกล้

แล้วโอกาสทองก็มาถึงอย่างคาดไม่ถึง เมื่อพีทมีเงินไม่พอจ่ายค่าของใช้ที่ซื้อ ลิซ่ากับเอียนได้ทีเสนอตัวเข้ามาช่วยจ่ายเงินให้ แมคกินนีสเผยว่า”พวกเขาคงสังเกตเห็นว่าอายุของฉันกับพีทต่างกันมาก แถมยังมีลูกยั้วเยี้ย พอเห็นเรามีเงินไม่พอจ่ายค่าข้าวของที่ซื้อ พวกเขาก็เลยช่วยจ่ายให้แล้วถามว่าพวกเราพักที่ไหน....”ขณะที่พีทเองซึ่งตอนนั้นใช้ชื่อปลอมว่าบิล อันเป็นหนึ่งในชื่อปลอมหลายสิบชื่อที่ใช้อยู่เกิดเผลอบอกความจริงว่ามีอายุ 62 ปีแล้ว ส่วนแม็คกินนีส ซึ่งตอนนั้นใช้ชื่อปลอมว่าสเตฟานีมีอายุแค่ 32-33 ปี

“ต่อมา เราก็ย้ายที่อยู่ แต่พวกเขาก็สืบรู้ว่าเราอยู่ท่ไหน และแสดงท่าทีให้ฉันเห็นว่าอยากจะให้ช่วยอะไรไหม พวกเขายินดีจะช่วย”

ด้านลิซา ให้สัมภาษณ์สื่อในภายหลังว่า ”พวกเขาพร้อมลูกๆ 8 คนอัดกันอยู่ในห้องเล็กๆใหญ่กว่าตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอิน นิดเดียวเท่านั้น พวกเด็กๆผอมจนเหมือนหนังหุ้มกระดูก พีทไม่ได้รักพวกเขาแม้แต่คนเดียว”
“ตอนเรากลับถึงบ้าน ฉันก็พูดขึ้นว่า”เอียน เธอเพิ่งอายุ 32 ปีเท่านั้นนะ ฉันคิดว่าลูกคนโตของเธอคงมีอายุ 17 ปี เท่ากับว่าเธอมีลูกตอนอายุแค่ 15 ปี แต่สามีของเธออายุตั้ง 62 ปี ฉันคิดว่ามีอะไรผิดปรกติแน่”

ลิซาได้โทรศัพทหาแม็คกินนีส พร้อมกับพูดว่า “คุณรู้ใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากคุณต้องการจะให้จับสามีของคุณเข้าคุกหรือไปที่สถานบำบัดในข้อหาอะไรสักอย่างอย่างเช่นติดยาเสพติดหรือติดสุรา พวกเราพร้อมจะช่วยคุณเอง” ถึงตอนนั้นบิล(ชื่อปลอมของพีท)ก็มาที่บ้าน เราก็เลยวางโทรศัพท์ และทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่ฉันพูด”

หลังจากนั้นไม่นาน แม็คกินนีส ซึ่งได้รวบรวมความกล้าเป็นครั้งแรกในชีวิตหอบลูกๆ 8 คน ยกเว้นลูกชายคนโตที่ได้หนีออกจากบ้านและไม่เคยพบกันเลย กระทั่งเมื่อเธอสามารถหลบหนีออกจากขุมนรกบนดินได้และกลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมา ลูกชายคนโตจึงกลับมาอยู่กับแม่พร้อมกับน้องๆ หนีจากนรกบนดินที่ทนอยู่มานานร่วม 20 ปีก็มาหาลิซากับเอียนที่บ้าน

ก่อนหน้านี้ เธอได้นำเงินที่แอบเก็บเล็กผสมน้อยจากการขายกาแฟ น้ำผึ้งหรือไอศรีม จ่ายเป็นค่าแท็กซี่ให้พาพวกเธอและลูกๆไปที่เมืองอัวซากา เม็กซิโก จากนั้นได้โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือไปที่ศูนย์ติดตามผู้สูญหายและการฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก (เอ็นซีเอ็มอีซี) ลิซาได้พาเธอตรงไปที่สถานกงสุลอเมริกันประจำเม็กซิโกซึ่งรีบช่วยทำพาสปอร์ตฉุกเฉินให้เธอและลูกๆเพื่อจะเดินทางกลับบ้านแท้จริงเสียที เธอและลูกๆต้องหลบซ่อนตัวนานถึง 2 เดือนกว่าจะได้พาสปอร์ตและเดินทางกลับอเมริกา

ส่วนพีทหลบหนี แต่ถูกควบคุมตัวเมื่อราวเดือนกย.2560 ขณะเดินทางไปที่สถานทูตสหรัฐประจำเม็กซิโกเพื่อจะขอทำพาสปอร์ตก่อนจะถูกฟ้องในปลายปี 2560 จากเอกสารคำฟ้องของศาลระบุว่า เจ้าหน้าที่เชื่อว่าพีทเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรในเม็กซิโก และเชื่อว่าเขาเคยข่มขู่คนหลายคนที่พยายามจะช่วยแม็คกินนีสหลบหนี คณะลูกขุนซึ่งใช้เวลาพิจารณาคดี 7 วันก็ตัดสินว่าเขาทำผิดจริงในข้อหาลักพาตัวและเจตนาเดินทางไปเม็กซิโกเพื่อร่วมประเวณีกับผู้เยาว์ แม้พีทจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่คงรอดยากจากโทษจำคุกตลอดชีวิต

วันที่พีทถูกจับกุมนั้น แม็คกินนีส ได้ออกแถลงการณ์พิเศษสั้นๆผ่านนิตยสารพีเพิลว่า”โล่งอก”แม้จะเป็นคำสั้นๆแต่ก็บอกได้หมดถึงอารมณ์เจ็บปวดนานถึง 22 ปี นับตั้งแต่ตกเป็นเหยื่อไร้ทางสู้ของเขาตั้งแต่อายุแค่ 11 ปี

“ในที่สุดเขาก็ถูกจับจนได้และถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน”

แม็คกินนีส สารภาพว่า ตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยปริปากบอกความจริงที่แสนเลวร้ายที่สุดให้ลูกๆฟัง “พวกลูกๆไม่มีใครรู้ความจริงที่เกิดขึ้น....ฉันปิดบังความจริงไม่ให้ลูกรู้ จนกระทั่งสามารถหลบหนีจากขุมนรกที่เม็กซิโกได้แล้ว...พอลูกๆรู้ความจริง ทุกคนต่างช็อกไปตามๆกัน

“ทุกๆวัน ทั้งฉันและลูกๆต่างทุกข์ทรมานจากการถูกทำร้ายโดยชายที่มีใจเยี่ยงสัตว์ ตอนนี้พวกเรากำลังปรับตัวให้ชินกับอิสรเสรีที่เราเพิ่งรู้จักและจะเดินหน้าต่อไป เพื่อให้มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความสุขและความสำเร็จ

ตอนนี้ แม็คกินนีส กล้าเดินสายให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการณรงค์หาทุน GoFundMe เพื่อหาเงินเลี้ยงลูกๆทั้ง 9 คน รวมทั้งสานฝันของเธอให้เป็นจริงที่จะเรียนให้จบระดับวิทยาลัยและจะเป็นนักสืบเอกชน ทั้งนี้เพื่อจะช่วยเด็กที่สํญหายอีกไม่ใชน้อยที่อยู่ในสถานะเดียวกับที่เธอเคยประสบมาก่อน

ในเวบไซต์ GoFundMe แม็คกินนีสเขียนว่า “ฉันไม่กลัวอีกแล้วที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆเนื่องจากเจ้าสัตว์ร้ายที่จับลูกๆของฉันเป็นตัวประกัน ตอนนี้ก็ถูกจับแล้วและตอนนี้ฉันก็พ้นจากนรกที่หมกไหม้มานาน 22 ปี”

“ฉันอยากจะเรียนให้จบแล้วไปต่อที่วิทยาลัยในสาขากฎหมายอาญา เพื่อจะได้เป็นนักสืบเอกชนช่วยตามหาเด็กที่สูญหายเหมือนที่ฉันเคยประสบมาก่อน แน่นอน ฉันมีความฝัน แต่ลูกๆขอฉันต้องมาอันดับแรกและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป"
Read more ...

รวบ ร.ต.อ.เก๊ สุดแสบ หลอกคบสาวนานเกือบปี พ่อแม่ฝ่ายหญิงสงสัย แจ้งตร.จริง ล็อกตัว

1/12/62
 
 
 
 
โดยข่าวสด เมื่อ 30 พ.ย.62

รวบ ร.ต.อ.เก๊ สุดแสบ หลอกคบสาวนานเกือบปี พ่อแม่ฝ่ายหญิงสงสัย แจ้งตร.จริง ล็อกตัว

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 29 พ.ย. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรถพล อนุสิทธิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ยิ่งยง มีคุณ รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. จับกุม 

นายสรายุทธ์ ประทุมถิ่น อายุ 33 ปี 

โดยจับกุมได้ที่ ถนนอังรีดูนังต์ ข้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สืบเนื่องจากมีประชาชนแจ้งว่านายสรายุทธ์ มีพฤติกรรม ชอบแอบอ้างและแสดงตัวเป็นตำรวจ โดยล่าสุดไปคบหากับหญิงสาวนานหลายเดือน พ่อแม่ของฝ่ายหญิงสงสัยอาจจะไม่ใช่ตำรวจจริง เพราะไม่ไปทำงานโดยนายสรายุทธ์ จะอ้างกับพ่อแม่ของฝ่ายหญิงว่าเป็นตำรวจสายลับ มีการส่งภาพถ่าย บัตรข้าราชการตำรวจ ปรากฏ ชื่อ ร.ต.อ.สรายุทธ์ ประทุมถิ่น ตำแหน่ง รอง สว.สยศ.ตร. ไปทางไลน์

ด้วยการแต่งเครื่องแบบตำรวจยศ ร.ต.อ.และจะถ่ายรูปตนเองขณะแต่งเครื่องแบบตำรวจ ส่งให้แก่บุคคลต่างๆที่รู้จัก เพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเป็นตำรวจจริง ต่อมา เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายสรายุทธ์ ขับรถยนต์มาจอดที่บริเวณถนนอังรีดูนังต์ ข้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงนำกำลังเข้าจับกุม

นายสรายุทธ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองไม่ได้รับราชการและไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ที่ผ่านมา ตนเองปลอมเป็นตำรวจ อ้างตัวเองกับกลุ่มเพื่อนที่รู้จัก รวมถึงหลอกคบกับแฟนสาวนานถึง 7 เดือน แต่พ่อแม่ของแฟนสาวสงสัย จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบพบว่าเป็นตำรวจปลอม โดยระหว่างจับกุมยังอ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นตำรวจสันติบาลทำงานด้านการข่าวก่อน ยอมรับว่าเป็นตำรวจปลอมสาเหตุเพราะอยากเป็นตำรวจเหมือนพ่อที่เป็นตำรวจชั้นประทวนที่เสียชีวิตนานแล้วจึงได้ทำการปลอมตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า

แต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ , 
แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานฯ,
ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม,
มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,
พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว,
มีวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 

กก.สส.2 บก.สส.บช.น. จึงได้ตรวจยึดไว้ และแจ้งข้อกล่าวหาให้นายสรายุทธ์ฯ ทราบ นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Read more ...

จับแก๊งบังคับเด็กแร่ขายน้ำมะพร้าวปลอมที่ภูเก็ต หากไม่ทำถูกตี

21/11/62
ไทยรัฐออนไลน์ 10 พ.ย. 2562 20:10 น.

ตร.ภูเก็ต จับแก๊งน้ำมะพร้าว ข้อหาค้ามนุษย์ พฤติกรรม นำเด็ก 8-14 ปี เดินขายน้ำมะพร้าว หากขายไม่ได้ ทำร้ายหนัก น้ำมะพร้าวยังปลอม ตบตา "ใส่แค่น้ำเปล่า-หัวเชื้อ" ทำรายได้เดือนละกว่า 1 แสน ทั้งที่ต้นทุนหลักพัน

วันที่ 10 พ.ย. ที่ชั้น 3 สถานีตำรวจภูธรตำบลป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวยศยะ ผช.ผบ.ตร. เป็นประธานการแถลงข่าว
พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต
พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต
พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
น.ส.อัจฉรา สุระกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต
นายกิตติ อินทรกุล หัวหน้าสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ จังหวัดภูเก็ต และ
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

แถลงข่าวการจับกุม ค้ามนุษย์เด็ก (แก๊งน้ำมะพร้าว)

1.นายวรรธกาญจน์ อร่ามศรี
ที่อยู่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตเลขที่ จ.292/2562 ลงวันที่ 9 พ.ย.2562

2.นางเขมมิกา อุปการแก้ว
ที่อยู่  ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต เลขที่ 330/2562 ลงวันที่ 9 พ.ย.2562

3.นายพรเทพ อุปการแก้ว
ที่อยู่ ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตเลขที่ 331/2562 ลงวันที่ 9 พ.ย.2562

4.นายวชิระ พูลช่วย
ที่อยู่ ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตเลขที่ 322/2562 ลงวันที่ 9 พ.ย.2562

ผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 4 ดำเนินคดีในข้อหา

- สมคบด้วยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานเด็ก หรือการอื่นใด หรือคล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคลและผู้ที่สมคบกันกระทำความผิดคนหนึ่งคนใดได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกันและ

- ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปการทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุยังไม่เกิน 15 ปี และบุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี

ผู้ต้องหาที่ 2 และ 3 ดำเนินคดีข้อหา

- สมคบด้วยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานเด็ก หรือการอื่นใด หรือคล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคลและผู้ที่สมคบกันกระทำความผิดคนหนึ่งคนใดได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกันและ

- ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปการทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุยังไม่เกิน 15 ปี และบุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี,

- เป็นนายจ้างร่วมกันจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเป็นลูกจ้าง,

- ร่วมกันจ้างเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปีเป็นลูกจ้าง โดยไม่แจ้งการจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กนั้นต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วัน แต่วันที่เด็กเข้าทำงานและ

- เป็นนายจ้างร่วมกันให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในระหว่างเวลา 22.00-06.00 น. โดยไม่ได้รับอนุญาต

พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวยศยะ ผช.ผบ.ตร.กล่าวว่า คดีนี้เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางนายอำเภอเมืองภูเก็ต และปลัดอำเภอเมือภูเก็ต เห็นเด็กอายุประมาณ 10-13 ปี มาเร่ขายน้ำมะพร้าวในที่ว่าการอำเภอเมืองภูเก็ต ในสภาพมอมแมมซูบผอม เกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเด็กไม่ไปโรงเรียน จึงได้สอบสวนและทราบว่า ถูกบังคับให้ขายน้ำมะพร้าว เด็กบางคนถูกทำร้ายทุบตี

เมื่อทราบเช่นนั้นทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่บ้านเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกลุ่มสหวิชาชีพ ได้ร่วมกันสอบปากคำเด็ก ก่อนที่จะนำเด็กไปพักไว้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต

จากนั้นทางผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับได้มีการร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช และต่อมาได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำนองว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิ์กักขังเด็กไว้ มีการแจ้งความแต่ไม่มีความคืบหน้า และจะฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นข่าวครึกโครมใหญ่โต เป็นข่าวที่ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสนใจอย่างมาก และต้องการทำความจริงให้กระจ่าง ตนในฐานะเป็นประธานศูนย์ ศพดส. นำเจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานครมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและมาช่วยเหลือการปฏิบัติ ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าความจริงเป็นเช่นไร จึงให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ข้อหาการค้ามนุษย์ และมีการจับกุมตัวทั้งหมดได้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่จังหวัดภูเก็ต

สำหรับเด็กขายน้ำมะพร้าว เป็นเยาวชน เป็นกำลังหลักของประเทศชาติในอนาคต และเป็นคนไทย และอาจะเป็นปัญหาครอบครัวต่อไปในอนาคต หรืออาจจะส่งผลต่อไปเทศชาติ เนื่องจากเด็กไม่ได้การพัฒนาทางด้านจิตใจ ทั้งทางด้านสติปัญญา และทางด้านร่างกาย เด็กพวกนี้จะไม่ได้เรียนหนังสือ เด็กที่ขายน้ำมะพร้าวต้องแบกน้ำมะพร้าวที่หนักมาก ทำงานเกินวันละ 10 ชั่วโมง บางครั้งถูกทำร้าย ตบตี ถูกตบ เรื่องนี้ยอมไม่ได้ จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และประกาศเลยว่า แก๊งค้ามนุษย์เด็กในจังหวัดภูเก็ตจะต้องปราบให้สิ้นซากภายใน 1-2 วันนี้ ตนการันตีว่าทุกแก๊งต้องสลายไปด้วยการดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด

สำหรับแก๊งค้าน้ำมะพร้าวนั้นได้ให้เด็กเร่ขายตั้งแต่เวลา 07.00 -13.00 น. และช่วงเวลา 13.30-06.00 น. ขายถุงละ 40 บาท เด็กต้องถือน้ำมะพร้าวเร่ขายครั้งละ 10 ถุงอย่างต่ำ บางคนทำรายได้วันละ 400 บาท ซึ่งทั้งหมดจะถูกเก็บไปให้พ่อแม่ หรือครอบครัวเด็กที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเด็กหากจะจ่ายเงินนั้นก็จะถูกหักออกไป และบางคนก็จ่ายเงินค่าทริปที่ได้จากแขกที่รู้สึกสงสารเด็กพวกนี้ เมื่อกลับมาช้าหรือขายไม่ได้จะถูกลงโทษ เด็กทุกคนนั้นพักอยู่รวมกันที่หมู่บ้านสะพานหิน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต จะวนเวียนอยู่แบบนี้ทุกวัน โดยสร้างรายได้ให้แก่ผู้ต้องหาเดือนละนับแสนบาท มีเงินอู้ฟู่ กำไรมหาศาล

จากการสอบปากคำเด็กทราบว่าน้ำมะพร้าวดังกล่าวนั้นใช้น้ำเปล่าผสมหัวเชื้อ กินน้ำนมแมว ใส่น้ำตาลทราย ใส่น้ำมะพร้าวเพียงเล็กน้อย บรรจุใส่ถุงพลาสติกเอาไปขายถุงละ 40 บาท ฟันกำไรมหาศาลจากต้นทุนหลักพัน ฟันกำไรหลักแสนบาทต่อเดือน

ผช.ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า เมื่อคืนก็ได้สั่งการให้ระดมกวาดล้างการนำเด็กมาเร่ขายของ และพบเด็กเพิ่มอีก 4 ราย ยืนขายผลไม้และขนม โดย

รายที่ 1 ยายนำเด็กมาขายขนมที่ร้านโกดังเพลง ต.ป่าตอง

รายที่ 2 เด็กหญิง 9 ปี แม่พาลูกมาขายดอกไม้ที่ร้านใบตอง ต.ป่าตอง

รายที่ 3 เด็กอายุ 7 ปี พ่อเลี้ยงพาลูกเลี้ยงมาขายพวงมาลัยที่ร้าน BBQ ที่ซอยตาเอียด ต.ฉลอง

รายที่ 4 เด็กหญิง 4 ปี พี่สาวพาน้องมาขายดอกไม้ที่ร้านส้มตำบันเทิง อ.เมืองภูเก็ต

รายที่ 5 ชายชาวกัมพูชา อายุ 63 ปี และหญิงอายุ 23 ปี เร่ขายของในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต

ซึ่งผิดกฎหมาย เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย ชาวต่างชาติจะเร่ขายของไม่ได้ จะดำเนินการเยียวยาและใช้มาตรการตามการปกครอง ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก จะมีมาตรการการเยียวยาเป็นหลัก.
Read more ...

รวบผู้ต้องหาล้วงกระเป๋า แหล่งท่องเที่ยว พบถูกจับคดีลักทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง

4/11/62

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.62

ตำรวจกองปราบปราม จับกุม

น.ส.พัชรา บรรจงชอบ อายุ 46 ปี

ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดราชบุรี ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2561 ในข้อหา

"ร่วมลักทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจร และกระทำการเป็นซ่องโจร"

จับกุมตัวได้ที่ งานวัดเจริญธรรม พื้นที่หมู่ 5 ตำบลเจริญธรรมอำเภอวิหารแดง จ.สระบุรี

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2561 เวลาประมาณ 16.00 น. น.ส.พัชรา ซึ่งเป็นแก๊งล้วงกระเป๋า ได้ร่วมกับพวกอีก 12 คน ทำการล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยว ที่บริเวณตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตำบลดำเนินสะดวก อำเภอดำเนินสะดวก และตลาดน้ำอัมพวา ตำบลอัมพวาอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม มีผู้เสียหายจำนวนหลายราย โดยกลุ่มคนร้ายได้ทรัพย์สินไปประมาณ 100,000 บาท ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุได้ 4 คน ส่วนผู้ต้องหากับพวกรวม 8 คนนั้นหลบหนีไปได้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด

จากการสืบสวนติดตามผู้ต้องหารายนี้ ทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาประกอบอาชีพค้าขาย โดยจะขายของตามงานวัด และงานเทศกาลต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแกะรอยสืบสวนติดตามเรื่อยมา จนทราบว่า น.ส.พัชราฯ ผู้ต้องหา จะมาขายของที่งานวัดเจริญธรรม จึงได้ลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ จากการซักถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และจากการตรวจสอบประวัติน.ส.พัชราฯ ผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2561
Read more ...