สายตรวจแสมดำจับหนุ่มพกปืนและยาบ้า

22/7/58
เมื่อวันที่ 21 กค. 58 เวลา 12.30 น. ตำรวจสายตรวจ สน.แสมดำ จับกุม

นายศักดิ์ชัย (ตี่ ) เตชะมนต์ตรีวลัย อายุ 18 ปี 

โดยกล่าวหาว่า

- มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1(ยาบ้า )ใว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมายและ
- มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนใว้ในความครอบครองโดยไม่ใด้รับอนุญาตจากนายทะเบียนและ
- พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมุ่บ้านหรือในทางสาธารณะโดยไม่ใด้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ 

พร้อมของกลาง 

- ยาบ้า จำนวน 50 เม็ด 
- อาวุธปืนลูกโม่แบบไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก 
- เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 6 นัด 

จับกุมบริเวณกลางซอยเทียนทะเล 20 แยก 5-3 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. 

นำส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำดำเนินคดี
Read more ...

ดีเอสไอบุกจับโรงงานน้ำปลาปลอม ป่าติ้ว จ.ยโสธร

16/7/58
โดยเว็บไซต์ดีเอสไอ  http://www.dsi.go.th/view.aspx?tid=T0000929

วันพุธที่ ๑๕ กรกฎาคม๒๕๕๘ เวลา ๑๔.๐๐ น.

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย
นายจักราคม ลิ่วมโนมนต์ ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา และ
เจ้าหน้าที่จาก สำนักงานความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา

ตรวจค้นจับกุม

โรงงานผลิตน้ำปลาปลอมรายใหญ่ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค ในอ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร

โดยโรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานผลิตน้ำปลาไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ใน อ.ป่าติ้ว จ. ยโสธร เป็นแหล่งผลิตน้ำปลาปลอมซึ่ง เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน จากการตรวจวิเคราะห์โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าน้ำปลาดังกล่าวมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค

และพบน้ำปลาปลอมตราปลาหมึกเป็นจำนวนมากที่ กำลังผลิตอยู่ภายในโรงงาน ซึ่งผู้เสียหายได้ชี้ยืนยันว่าเป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของตน โดยผู้ต้องหาเตรียมส่งออกไปจำหน่ายและกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่างๆในประเทศและส่งขายประเทศลาว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจนับและดำเนินคดีเป็นคดีพิเศษ

รายงานความคืบหน้าการจับกุมน้ำปลาปลอม จังหวัดยโสธร ในเวลา ๑๕.๔๕ น. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง พร้อมด้วยนายจักราคม ลิ่วมโนมนต์ ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา และจนท. จาก สำนักงานความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมกันตรวจที่เกิดเหตุและแถลงข่าวผลการดำเนินการจับกุมน้ำปลาปลอม ได้

ของกลางกว่า ๖,๐๐๐ ขวด และมีน้ำปลาที่ผสมแล้วยังไม่ได้บรรจุอีกกว่า ๕,๐๐๐ ลิตร ซึ่งสามารถบรรจุเป็นน้ำปลาปลอมได้อีกกว่า ๗,๐๐๐ ขวด รวมแล้วกว่า ๑๓,๐๐๐ ขวด

สามารถควบคุม

ผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าของโรงงานได้ ๑ คน 

และขณะนี้กำลังขนย้ายสินค้าดังกล่าวเข้า กทม. เพื่อดำเนินการเป็นคดีพิเศษต่อไปโดยมี พันเอก พิชิต วันทา ผบ. กรมทหารราบที่ ๑๖ จ. ยโสธร ส่งกำลังทหารกว่า ๒๐ นาย มาร่วมลำเลียงสินค้าดังกล่าว
Read more ...

พม่า แก๊งลัก จยย. แทงตำรวจปากน้ำชุมพรที่มาตรวจสอบเสียชีวิต

14/7/58
เมื่อ 12 ก.ค.58 เวลา 23.00 น. ที่สะพานปลา ม.8 ต.ปากน้ำ อ.เมือง ชุมพร

ด.ต.ไพบูลย์ สมวัง ผบ.หมู่(ป.) สภ.ปากน้ำชุมพร อายุ 47 ปี ได้รับแจ้งมีคนร้ายนำรถ จยย. ถูกลักมา มาขาย จึงไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบ นายซู อายุ 22ปี ชาวพม่าหลบหนีเข้าเมือง คนร้าย

แต่คนร้ายขัดขืน ใช้มีดแทงเข้าชายโครงขวาของ ด.ต.ไพบูลย์ ทำให้เสียชีวิต แล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่า แต่ตำรวจนำกำลังล้อมจับกุมไว้ได้

คนร้ายสารภาพ ลักรถมาจากตลาดปากน้ำชุมพร ก่อนเกิดเหตุเล็กน้อย เพื่อนำมาขายต่อให้คนพม่าด้วยกันในที่เกิดเหตุ

ที่มา http://goo.gl/E75LTI
Read more ...

โจรพม่าแทงตำรวจปากน้ำชุมพรเสียชีวิต

13/7/58
เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2558 

มีการรายงานเหตุคดีอุกฉกรรจ์ ของ สภ.ปากน้ำชุมพร 

เหตุ ฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่

ผู้ตาย ด.ต.ไพบูลย์ สมหวัง ผบ.หมู่(ป) สภ.ปากน้ำชุมพร อายุ 47 ปี

ผู้ต้องหา นายซู ไม่มีนามสกุล สัญชาติเมียนมาร์ อายุ 22 ปี

เหตุเกิดที่ สะพานปลา หมู่ที่ 8 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 12 ก.ค.58 เวลา 23.00 น. 

พฤติการณ์ ตามวันเวลาเกิดเหตุ ผู้ตายได้รับแจ้งว่ามีชายพม่าต้องสงสัยว่าลัก จยย. แล้วนำมาบอกขายให้ชาวเมียนมาร์ย่านที่เกิดเหตุ ผู้ตายจึงเข้าไปตรวจสอบ เมื่อไปถึง ได้แสดงตัวและสอบถาม ผู้ต้องหาซึ่งเป็นชายต้องสงสัยที่ได้ลักรถ จยย.ทะเบียน 1 กค -6346 ชุมพร มาจริง 

เมื่อผู้ต้องหา ทราบว่าเป็นตำรวจ จึงชักเอาอาวุธมีดออกมา ผู้ตาย ได้ถอยมาตั้งหลัง ผู้ต้องหาได้เข้ามาใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ครั้ง เข้าชายโครงด้านขวา ล้มลง 

จากนั้นวิ่งหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวในป่าหญ้ารก พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รรท.ผกก.สภ.ปากน้ำชุมพร พร้อม  ชุดสืบสวน สายตรวจ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าปิดล้อมป่าหญ้ารก แล้วเดินล้อมเข้าไป กระทั่งสามารถเข้าไปจับกุมผู้ต้องหาได้ 
     
สอบสวนขยายผล ทราบว่า ผู้ต้องหาลักรถ จยย. มาจากตลาดปากน้ำชุมพร ก่อนเกิดเหตุเล็กน้อย ห่างจากจุดเกิดเหตุ 1.2 กม. แล้วนำมาขายให้ชาวเมียนมาร์ด้วยกัน 

ข้อหา ฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่โดยผิดกฎหมาย นำส่ง พงส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
Read more ...

สน.บุปผาราม จับ 2 ใน 5 เยาวชนก่อเหตุปล้นทรัพย์

12/7/58
เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2558 เวลา 18.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจภายใต้การอำนวยการของ

ว่าที่ พ.ต.อ.ณัฏฐ์พัชร์ ผดุงจันทน์ ผกก.สน.บุปผาราม
พ.ต.ท.พิทักษ์ ปัญญาพร รอง ผกก.สส.สน.บุปผาราม
พ.ต.ท.ดร.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว สว.สส.สน.บุปผาราม
ร.ต.อ.อนันต์ สว่างอัมพร รอง สว.สส.สน.บุปผาราม
ร.ต.อ.อดุลย์ศิริ วงศ์ตันกาศ รอง สว.สส.สน.บุปผาราม
ร.ต.ท.พิจักษณ์กฤษ นิธุรัมย์ รอง สว.(สส) สน.บุปผาราม
ด.ต.พิษณุ ตัสโต
ด.ต.เสงี่ยม วันเนา
ด.ต.พรชัย วิชัยโย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บุปผาราม

ได้ร่วมกันจับกุมตัว

1.นายมีน (นามสมมติ) ผู้ต้องหาที่ 1 อายุ 15 ปีเศษ (ตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรีที่ จ.497/2558 ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2558)

2.นายฮก (นามสมมติ) ผู้ต้องหาที่ 2 อายุ 17 ปีเศษ (ตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรีที่ จ.499/2558 ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2558)


พร้อมด้วยของกลาง

1. เสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ
2. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 หมายเลขทะเบียน 3 กฬ 7290 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน

โดยกล่าวหาว่า " ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธและโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิดหรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ร่วมกันพาอาวุธมืดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร "

เหตุเกิดที่ บริเวณแยกมารยาทดี (ใกล้สะพานพุทธ) แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 เวลาประมาณ 01.15 น.

จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่ บริเวณตรอกชั่งทอง แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
จับกุมผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่ บริเวณกลางซอยวัดอัมพวา แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ

พฤติการณ์กล่าวคือ ก่อนเวลาจับกุม ตามวันเวลาเกิดเหตุผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้ร่วมกันกับพวก จำนวน 5 คน ใช้อาวุธมีดและรถจักรยานยนต์(ของกลางในคดี) เป็นพาหนะ ได้ก่อเหตุปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย รวมมูลค่าเป็นเงินทั้งสิ้น 72,380 บาท แล้วได้หลบหนีไป พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการออกหมายจับไว้แล้ว ต่อมาเจ้าพนักงานได้จับกุมตัวได้พร้อมกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Read more ...

สน.ดินแดง จับ 2 โจรตระเวนปล้นร้านเซเว่นคืนเดียว 7 แห่ง

11/7/58

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2558 เวลา 09.00 น.

ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง

ได้ร่วมกันทำการจับกุม

1.นายฤทธิเกียรติ หรือ บิว ศิริจันทร์ อายุ 20 ปี ที่อยู่ 96/1 ถ.ริมคลองสามเสน แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1570/2558 ลงวันที่ 11 ก.ค.58 

2.นายอรรถพันธ์ หรือ หนุ่ม คมขำ อายุ 19 ปี ที่อยู่ 5005/158 ถ.ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1571/2558 ลงวันที่ 11 ก.ค.58 

พร้อมด้วยของกลาง

1.อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์แบบลูกโม่ ขนาด 0.22 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก
2.เครื่องกระสุนปืน ขนาด 0.22 นิ้ว จำนวน 6 นัด
3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีขาวดำ ทะเบียน 2 กส 5139 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน
4.กระเป๋าเป้แบบสะพายหลัง (ลายธงชาติสหรัฐ) จำนวน 1 ใบ
5.กระเป๋าสะพายสีดำเทา จำนวน 1 ใบ
6.หมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีดำ จำนวน 1 ใบ
7.หมวกนิรภัยแบบครึ่งใบสีเทา จำนวน 1 ใบ
8.เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว จำนวน 1 ตัว
9.เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีฟ้า (ลายการ์ตูนรูปหมาสีขาว) จำนวน 1 ตัว
10.เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีส้ม (อักษรว่า STAFT) จำนวน 1 ตัว
11.เสื้อคอกลมแขนยาวสีฟ้าขลิบเขียว จำนวน 1 ตัว
12.เสื้อคอกลมแขนยาวสีม่วงขลิบดำ จำนวน 1 ตัว
13.รองเท้ายางแบบสวมสีดำ จำนวน 1 คู่
14.หมวกไอ้โม่งไหมพรม จำนวน 1 ใบ
15.แว่นตากันแดด จำนวน 2 อัน
16.ถุงมือสีฟ้า จำนวน 1 คู่
17.บัตรเติมเงิน จำนวน 8 ใบ

วันเวลา/สถานที่จับกุม บริเวณแฟลต 11 (แฟลตดินแดง) แขวง/เขตดินแดง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2558 เวลาประมาณ 09.00 น.

วันเวลา/ที่เกิดเหตุ

- ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลฟเว่น สาขาประชาสงเคราะห์ 14 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ และ
- ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลฟเว่น สาขาตลาดศรีวณิช 2 ถนนดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ เมื่อ วันที่ 10 กรกฏาคม 2558 เวลาประมาณ 00.30 น. และ เวลาประมาณ 01.50 น. ตามลำดับ

โดยกล่าวหาว่า

- ร่วมกันชิงทรัพย์ (ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลฟเว่น) 
- มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 
- พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวหรือมีเหตุอันควร

พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม 2558 เวลาประมาณ 00.30 น.
ได้มีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ (เซเว่นฯ) ปากซอยประชาสงเคราะห์ 14 ถ.ประชาสงเคราะห์ แขวง/เขตดินแดง กรุงเทพฯ แล้วหลบหนีไป และต่อมาเวลาประมาณ 01.50 น. ของวันเดียวกัน ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ ร้านสะดวกซื้อ (เซเว่นฯ) บริเวณตลาดศรีวนิช ถ.อโศก-ดินแดง แขวง/เขตดินแดง กรุงเทพฯ แล้วหลบหนีไปโดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ

หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมคนร้าย จนเชื่อได้ว่า ผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 เป็นคนร้ายในคดีนี้ จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ และติดตามจับกุมตัว พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ดำเนินคดี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และยอมรับว่าได้ร่วมกันก่อเหตุในพื้นที่อื่น ดังนี้

1.เวลาประมาณ 00.07 น. ก่อเหตุชิงทรัพย์ ร้านเซเว่นฯ ปากซอยสบายใจ ท้องที่ สน.สุทธิสาร
2.เวลาประมาณ 00.30 น. ก่อเหตุชิงทรัพย์ ร้านเซเว่นฯ ปากซอยประชาสงเคราะห์ 14 ท้องที่ สน.ดินแดง
3.เวลาประมาณ 01.49 น. ก่อเหตุชิงทรัพย์ ร้านเซเว่นฯ ตลาดศรีวนิช ท้องที่ สน.ดินแดง
4.เวลาประมาณ 01.59 น. ก่อเหตุชิงทรัพย์ ร้านเซเว่นฯ ปากซอยพหลโยธิน 1 ท้องที่ สน.พญาไท
5.เวลาประมาณ 02.01 น. ก่อเหตุชิงทรัพย์ ร้านเซเว่นฯ ปากซอยพหลโยธิน 5 ท้องที่ สน.บางซื่อ
6.เวลาประมาณ 02.03 น. ก่อเหตุชิงทรัพย์ ร้านเซเว่นฯ ปากซอยพหลโยธิน 9 ท้องที่ สน.บางซื่อ
7.เวลาประมาณ 02.10 น. ก่อเหตุชิงทรัพย์ ร้านเซเว่นฯ ปากซอยพหลโยธิน 15 ท้องที่ สน.บางซื่อ

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา 

ที่มา FB บช.น. https://goo.gl/aPyVP2
Read more ...

แก๊งพลอยแก้ว “Ploy k@ew” นักวิ่งราวทรัพย์ กทม.

11/7/58
ข้อมูลการถูกจับกุมของแก๊งพลอยแก้ว ที่ปรากฎในสื่อมวลชน  มีดังนี้

1. เมื่อ 6 พ.ค.2554   สน.พระราชวัง จับกุม 2 คน http://goo.gl/1sVvoX 

2. เมื่อ 10 พ.ย.2556  สน.บางกอกน้อย จับกุม 1 คน http://goo.gl/5H7A7i

3. เมื่อ 21 ก.ค.2557 สน.บางขุนเทียน จับกุม 1 คนhttp://goo.gl/fWBNFqhttp://goo.gl/0FqpFX

4. เมื่อ 27 มี.ค.2558 กก.สส.บก.น.6 จับกุม 5 คน http://goo.gl/zKykst

5. เมื่อ 11 ก.ค.2558 สน.บางรัก จับกุม 1 คน https://goo.gl/z5oD3V

(ภาพประกอบ การแถลงข่าวจับกุมของ กก.สส.บก.น.6 เมื่อ 27 มี.ค.2558)
Read more ...

สืบสวน สน.บางรัก จับกุมวัยรุ่นก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์หลายคดี

11/7/58

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2558 เวลา 09.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล
คณะนายตำรวจของ บช.น.
พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางรัก,
พ.ต.ท.จิรกฤต จารุนภัทร์ รอง ผกก.สส.ฯ,
พ.ต.ท.วิทวัส บูรณะ สว.สส.ฯ,
พ.ต.ต.สาธิต สอนชา สว.สส.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก

ได้ร่วมกันทำการจับกุม

นายสหรัฐ หรือบิ๊ก ทองอุดม อายุ 18 ปีบ้านเลขที่ 47 ถนนวุฒากาศ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม.

ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ. 628/2558 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2558 ของ สน.พระราชวัง

พร้อมด้วยของกลาง

- รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ-น้ำตาล(ทอง) ล้อแม็กสีดำ หมายเลขทะเบียน 2กณ 3537 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน
- เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว จำนวน 1 ตัว
- กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว
- รองเท้าแตะ จำนวน 1 คู่

วันเวลา/สถานที่จับกุม หน้าบ้านเลขที่ 318/14 หมู่ที่ 11 ต.มะขามล้ม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เมื่อ วันที่ 10 กรกฎาคม 2558 เวลาประมาณ 14.00 น.

วันเวลา/ที่เกิดเหตุ บริเวณแยกอุณากรรณ ถ.เจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม. เมื่อ 11 มีนาคม 2558 เวลาประมาณ 08.40 น.

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิดฯ”
(ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ. 628/2558 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2558 ของ สน.พระราชวัง)

พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.58 เวลาประมาณ 08.45 น. ได้มีคนร้าย จำนวน 2 คน ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ที่บริเวณปากคลองตลาด ซี่งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สน.พระราชวัง ได้ทรัพย์สินสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองหนัก จำนวน 1 บาท จำนวน 1 องค์ ราคาประมาณ 40,000 บาทไป และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระราชวัง ได้สืบสวนจนทราบตัวคนร้ายและศาลได้อนุมัติหมายจับคนร้ายไว้แล้ว

ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.58 เวลาประมาณ 08.46 น. ได้มีคนร้าย จำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ-น้ำตาล (ทอง) ล้อแม็กสีดำ ทะเบียน ฬอป 739 กรุงเทพมหานคร (ทะเบียนปลอม) ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น ที่บริเวณหน้าโรงแรมมาร์ ถนนสุรวงศ์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ ก่อนหลบหนีไป ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.บางรัก

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรักจึงได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้าย จนทราบว่าคนร้ายดังกล่าว คือ

นายศราวุธ หรือ เบล ปานทอง (เป็นผู้ขับขี่) และ 

นายสหรัฐ หรือ บิ๊ก ทองอุดม (เป็นคนซ้อนท้ายและกระชากสร้อยคอทองคำ)

โดยคนร้ายทั้งสองเป็นสมาชิกของ “แก๊งพลอยแก้ว” ที่ยังไม่ถูกจับกุมตัว และเป็นกลุ่มคนร้ายเดียวกันกับที่ก่อเหตุในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สน.พระราชวัง ซึ่งได้ถูกออกหมายจับไว้แล้วข้างต้น จึงได้ประสานขอข้อมูลจาก สน.ใกล้เคียงจนพบว่าคนร้ายดังกล่าว ยังได้ตระเวนก่อเหตุอีกจำนวนหลายครั้ง ในเขตพื้นที่ บก.น.6 ดังนี้

1.วันที่ 25 เม.ย.58 เวลาประมาณ 09.00 น. ก่อเหตุ ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ (พื้นที่ สน.ปทุมวัน)

2.วันที่ 6 มิ.ย.58 เวลาประมาณ 08.30 น. ก่อเหตุ ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ (พื้นที่ สน.ปทุมวัน)

3.วันที่ 20 มิ.ย.58 เวลาประมาณ 08.46 น. ก่อเหตุ ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ (พื้นที่ สน.บางรัก)

4.วันที่ 20 มิ.ย.58 เวลาประมาณ 09.00 น. ก่อเหตุ ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ (พื้นที่ สน.ปทุมวัน)

5.วันที่ 28 มิ.ย.58 เวลาประมาณ 15.10 น. ก่อเหตุ ร่วมกันพยายามวิ่งราวทรัพย์ (พื้นที่ สน.ยานนาวา)

6.วันที่ 4 ก.ค.58 เวลาประมาณ 15.36 น. ก่อเหตุ ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ (พื้นที่ สน.ปทุมวัน)

นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่า นายสหรัฐ หรือ บิ๊ก ทองอุดม เป็นผู้ต้องหาซึ่งถูกออกหมายจับในคดีของ สน.ต่างๆ ดังนี้

1.หมายจับศาลอาญาที่ จ.628/2558 และ 633/2558 ลงวันที่ 27 มี.ค.58 ข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ” (ของ สน.พระราชวัง)

2.หมายจับศาลอาญาที่ จ.599/2558 และ 640/2558 ลงวันที่ 26 มี.ค.58 ข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ” (ของ สน.สำราญราษฎร์)

3.หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.219/2558 และ 225/2558 ลงวันที่ 30 มี.ค.58 ข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ” (ของ สน.วัดพระยาไกร)

4.หมายจับศาลอาญากรุงเทพธนบุรี ที่ จ.239/2558 ลงวันที่ 2 เม.ย.58 ข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ ยานพาหนะฯ” (ของ สน.บุคคโล)

5.หมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ที่ จ.69/2558 ลงวันที่ 22 เม.ย.58 ข้อหา “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ” (ของ สน.บางยี่เรือ)

รวม จำนวนทั้งสิ้น 8 หมาย

จากการสืบสวนทราบว่า นายสหรัฐ หรือ บิ๊ก ทองอุดม ผู้ต้องหาตามหมายจับข้างต้น ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 318/14 หมู่ที่ 11 ต.มะขาม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี จึงได้วางแผนสืบสวนติดตามจับกุมตัว จนกระทั่งสามารถจับกุม นายสหรัฐ หรือ บิ๊ก ได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 318/14 ฯ ดังกล่าวข้างต้น

จากการสอบสวนขยายผล ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการกระทำความผิดและหลบหนีในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ มาตั้งแต่ พ.ศ.2556 ต่อเนื่องมาจนกระทั่งถูกจับกุม ไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง

หากผู้เสียหายท่านใดที่ประสบเหตุถูกวิ่งราวทรัพย์ในลักษณะดังกล่าว สามารถติดต่อขอดูตัวผู้ต้องหาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับรายละเอียดพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่ สน.พระราชวัง และ สน.บางรัก และจะได้ประสาน สน.ต่างๆ ให้ติดตามผู้เสียหายที่ได้ร้องทุกข์ไว้มาชี้ยืนยันตัวผู้ต้องหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ที่มา FB บช.น. https://www.facebook.com/thaimetropolice/posts/1781221582104967
Read more ...

สืบภาค 5 จับยาบ้า 2 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 50 กก. ที่เชียงใหม่

10/7/58
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2558 เวลา 22.00 น. โดยการอำนวยการของ
พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์  ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5
พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี
พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์
พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์
พล.ต.ต.จำลอง น้อมเศียร
พล.ต.ต.ติณภัทร  ภุมรินทร์
พล.ต.ต.พงษ์สักก์ เชื้อสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.5
พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5
พ.ต.อ.ชินวิช  วิชัยธนพัฒน์
พ.ต.อ.วีรชน บุญทวี
พ.ต.อ.สุวัฒน์  แก้วดวงโต      
พ.ต.อ.ธรรมนูญ  ประยืนยง รอง ผบก.สส.ภ.5 สั่งการให้
พ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.5 ,
พ.ต.ท.ไพโรจน์  ทองขาว  ,
พ.ต.ท.ปกรณ์  ผาทอง รอง ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.5
พ.ต.ท.อภิชาติ  หัตถสิน
พ.ต.ท.นิรันดร์  ถูกแผน
ร.ต.อ.พงษ์เอก  จันทร์ตา สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.5 พร้อมด้วย ชป.ศอ.ปส.ภ.5

ทำการสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่ ภ.5 ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 8 ก.ค.2558 เวลา 22.00 น. ได้ทำการจับกุม

นายสมชาย  หรือหนุ่ย  เทศทิม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/43 หมู่ที่ 2 ต.นาป่า อ.เมือง จว.ชลบุรี และ 

นายมงคล  หรือ ดุ๊ก  ฉ่ำโต อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/31 หมู่ที่ 5 ต.คอกกระบือ อ.เมือง จว.สมุทรสาคร 

พร้อมของกลาง

- ยาบ้า จำนวน 2,000,000 เม็ด และ 
- ยาไอซ์ จำนวน 50 กิโลกรัม 
- รถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮเอ็ท สีขาวคาดแดง หมายเลขทะเยน ลอ 8657 กรุงเทพมหานคร และ 
- รถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้ารุ่นซีวิค สีขาว หมายเลขทะเยน ฌถ 9630 กรุงเทพมหานคร 

ดำเนินคดีในความผิดฐาน

“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน,ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

สถานที่จับกุมบริเวณลานจอดรถใต้อาคารบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า ถนนลำปาง – เชียงใหม่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองจว.เชียงใหม่  นำส่ง พงส.สภ.แม่ปิง จว.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
Read more ...

จับนายทหารยศ พันโท กับพวก อ้างเป็นชุดเฉพาะกิจ คสช. ตรวจสอบแรงงานต่างด้าว

10/7/58
เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร ผกก.สภ.บางแก้ว พร้อมกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวนและป้องกันปราบปราม ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารจาก ชป.พท.ป.พัน. 21 รอ. ตรวจสอบและทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ดังนี้

1.พ.ท.บัญญัติ เบิกบานดี อายุ 48 ปี สังกัดกองทัพบก  แต่งเครื่องแบบทหารเต็มยศ 

2. ร.อ.สมชาย ขันตี  อายุ 49 ปี สังกัดกองทัพบก  แต่งเครื่องแบบทหารเต็มยศ 

3.จ.ส.ต.วสุพล แจ่มเจริญ เ ป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด กก.ปพ.บก.ป. อายุ 38 ปี (ไม่ใส่เครื่องแบบ) 

4. นายสมศักดิ์ ยิ้มปรีดา อายุ 54 ปี (พลเรือนแสดงบัตรอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ นายดาบตำรวจ) 

ในความผิดฐาน

- ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม (บัตร คสช.)
- ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น
- เป็นเจ้าพนักงานตำรวจปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
- ร่วมกันบุกรุก
- ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม (รถยนต์โตโยต้า คัมรี่)

พร้อมด้วยของกลางคือ

- บัตร คสช.ปลอม ระบุชื่อ ด.ต.สมศักดิ์ ยิ้มปรีดา จำนวน 1 ใบ
- บัตร คสช.ปลอม ระบุชื่อ จ.ส.ต.วสุพล แจ่มเจริญ จำนวน 1 ใบ
- แผ่นป้ายทะเบียนรถปลอม หมายเลขทะเบียน ชฐ 782 กทม.จำนวน 2 แผ่น
- แผ่นป้ายเสียภาษีหมายเลขทะเบียน ชฐ 782 กทม.มีร่องรอยขูดลบและแก้ไข
- รถยนต์ โตโยต้า คัมรี่ สีขาว จำนวน 1 คัน
- ไอแพดมินิ สีดำ ของ พ.ท.บัญญัติ เบิกบานดี จำนวน 1 เครี่อง 

พฤติการณ์ คือ เมื่อวันที่ 9 ก.ค.58 เวลาประมาณ 14.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่า มีกำลังทหารจากชุดเฉพาะกิจ คสช. เข้ามาตรวจค้นในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารจาก ชป.พท.ป.พัน. 21 รอ.เข้าไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบบุคคลทั้ง 4 นาย ได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน โดนอ้างว่าเป็นชุดเฉพาะกิจสังกัด คณะ คสช.โดยได้แสดงบัตร คสช.(ตามภาพ) และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยได้ทำการตรวจค้นร้านขายสินค้าอุปโภคบริโภคสำหรับแรงงานพม่า ซึ่งตั้งอยู่ในซอยหมอวาง ถนนกิ่งแก้ว ซึ่งเป็นห้องแถวให้เช่า เลขที่ 36 หมู่ 7 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จว.สมุทรปราการ

เมื่อตรวจสอบแล้วปรากฏว่าไม่มีการแต่งตั้งชุดดังกล่าวแต่อย่างใด จึงได้เชิญตัวทั้ง 4 นาย มาที่ สภ.บางแก้ว เพื่อตรวจสอบโดยละเอียด จึงได้ทราบว่า บัตร คสช.ตามอ้าง เป็นบัตรปลอม ที่ พ.ท.บัญญัติ เบิกบานดี เป็นผู้จัดทำขึ้นมาเอง เพื่อร่วมกันใช้แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่มีอำนาจการตรวจค้นและจับกุม ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

จากนั้นชุดจับกุมได้ทำการตรวจค้นรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ชฐ 782 กทม. ที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ใช้ ตรวจสอบแล้วพบว่า รถคันดังกล่าวติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม ตรวจสอบแผ่นป้ายเสียภาษี มีการขูดลบแก้ไข ปลอมแปลง จึงได้ร่วมกันจับกุมแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา
เนชั่นทีวี http://goo.gl/A80qPQ
ข่าวสด http://goo.gl/88Pd29
ไทยรัฐ http://goo.gl/EfVjBc
Read more ...

เกิดเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ จำนวน 3 เหตุ

10/7/58
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2558 เกิดเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ จำนวน 3 เหตุ  ดังนี้

1.) รับแจ้งเมื่อเวลาประมาณ 00.40 น. เหตุชิงทรัพย์ พื้นที่ สน.ดินแดง  ร้านเซ่เว่น สาขา ประชาสงเคราะห์ 14  

คนร้ายเป็น ชาย 1 คน มีอาวุธปืน ใส่เสื้อแขนยาว สีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ  ใช้ จยย. ยี่ห้อฮ้อนด้าเวฟ  สีขาว (ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน )หลบหนีมุ่งหน้า สน.ดินแดง

2.) รับแจ้งเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. เหตุชิงทรัพย์  พื้นที่ สน.พญาไท ร้านเซ่เว่น สาขา พหลโยธิน 1 ใกล้ ซอยลือชา 

คนร้าย เป็น ชาย 1 คน มีอาวุธปืน ใส่เสื้อยืดสีส้ม ใส่โม่งสีดำ กางเกงขายาวสีดำ ใช้ จยย. (ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ) หลบหนีมุ่งหน้าซอยอารีย์  (ได้ทรัพย์สินเป็นเงินประมาณ 3,000 )

3.) รับแจ้งเมื่อเวลาประมาณ 02.10 น.  เหตุชิงทรัพย์  พื้นที่ สน .ดินแดง ร้านเซ่เว่น สาขา ตลาดศรีวานิช 2 

คนร้าย เป็นชาย 1 คน มีอาวุธปืน   ใส่เสื้อยืดสีส้ม กางเกงขายาวสีดำ ใส่โม่งสีดำ และสวมหมวกนิรภัยเต็มใบสีดำ แว่นตา ใช้ จยย. (ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน )หลบหนีมุ่งหน้าอนุสาวรีย์( ได้ทรัพย์สินเป็นเงินประมาณ 3,000 )
Read more ...

ตำรวจบุรีรัมย์จับ พลทหาร ดักยิง ส.ต.ต. ตชด.

8/7/58
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ค.58

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ นำตัว 

พลทห­ารกิตติศักดิ์ เสาร์ทอง ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 11

ไปทำแผนประกอบคำ­รับสารภาพหลังใช้อาวุธปืนยิงใส่ 

ส.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ เดชมะเริง ตำรวจตระเวนชายแดน 21 พร้อมพวกรวม 7 คน ขณะเดินออกจากสถานบันเทิงในอำเภอเมืองจังห­วัดบุรีรัมย์เมื่อคืนวันที่ 7 ก.ค.2558 จนเกิดการยิงต่อสู้กัน เป็นเหตุให้ นายกฤษณะ เสาร์ทอง น้องชายของพลทหารกิตติศักดิ์ ถูกยิงบาดเจ็บและเสียชีวิตที่ รพ. 

พลทหารกิตติศักดิ์ ให้การว่า มาเที่ยวสถานบันเทิงกับเพื่อน 6 คน แล้วถูกกลุ่มวัยรุ่นไม่ทราบกลุ่มรุมทำร้าย จึงมาดักรอกลุ่มที่ทำร้ายตน ที่บริเวณสามแยกใกล้สถานบันเทิง กระทั่งกลุ่มของ ส.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ เดินมาถึง จึงใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ยิงใส่ แต่ถูก ส.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงต่อสู้ จนถึงน้องชายของตนเสียชีวิต 

ตำรวจแจ้งข้อหา พลทหารกิตติศักดิ์ ข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น 

ส.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ถูกแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตน­า ถูกควบคุมตัวที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์
Read more ...

สน.ทองหล่อ จับแก๊งยูเครน ปลอมบัตรเครดิต

8/7/58
เมื่อวันที่ 7 ก.ค.58 เวลาประมาณ 23.45 น.

ตำรวจ สน.ทองหล่อจับกุม

1. Mr.Dmytro Bonder สัญชาติ ยูเครน อายุ 32 ปี

2. Mr.Oleksandr Korchemny สัญชาติ ยูเครน อายุ 38 ปี

พร้อมของกลาง

- บัตรอิเล็กทรอนิคปลอม จำนวน 172 ใบ
- เงินสด 820,000 บาท
- เครื่องสกิมเมอร์ จำนวน 1 เครื่อง
- อุปกรณ์อื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง

ที่เกิดเหตุ บริเวณ หน้าตู้เอทีเอ็มไทยพาณิช ระหว่างซอย สุขุมวิท 45-47

ข้อหา ร่วมกันหรือร่วมกันมีไว้เพื่อใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิคปลอมฯ

จับกุมพร้อมยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
Read more ...

จับกุมผู้ต้องหาปล้นทรัพย์ ธ.กสิกรไทย โลตัส พระราม 1 กว่า 13 ล้านบาท

7/7/58
 
 
 
ตามนโยบาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ให้ทุกพื้นที่เร่งรัดสืบสวนปราบปราม และจับกุมผู้กระทำความผิดในคดีอาญาทุกประเภท ตลอดจนคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และคดียาเสพติดอย่างต่อเนื่องตลอดมา

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2558 เวลา 11.30 น.
ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., 
พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก., 
พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น., 
พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น., 
พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น., 
พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น., 
พล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ รอง ผบช.น., 
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น., 
พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. , 
พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ รอง ผบช.น. ได้เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องตลอดมา

พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6, 
พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น.  
พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป., 
พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 ป, 
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.6, 
บก.สส.บช.น., และ บก.ป. 

ได้ร่วมกันทำการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามจับกุมคนร้าย พร้อมทรัพย์สินที่สูญหายไปตลอดมา

ได้ร่วมกันทำการจับกุม

1.นายทวีวงศ์ หรือ ตูน หอมเนียม อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/71 ถ.สวรรคโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.456/2558 ลงวันที่ 6 ก.ค.2558 (คนซ้อนท้าย + ยิง)

2.นายมารุต หรือ เบส แก่นคำหล่อ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/36 ถ.สวรรคโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.458/2558 ลงวันที่ 6 ก.ค.2558 (ขับรถรับ – ส่งคนร้าย)

3.นางสาวอารยา หรือ กระแต ผลารักษ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 279/53 ถ.นครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.457/2558 ลงวันที่ 6 ก.ค.2558 (ชี้เป้า)

ผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่

นายศาตรา หรือ ตั้ม สุขสม อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 ม.1 ต.หนองโอ่ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.455/2558 ลงวันที่ 6 ก.ค.2558 (หลบหนี) (ผู้ขับขี่ จยย.)

วันเวลา สถานที่เกิดเหตุ วันที่ 19 มิถุนายน 2558 เวลา17.09 น. ภายในบริเวณห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขา ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

วันเวลา สถานที่จับกุม วันที่ 6 กรกฎาคม 2558 เวลาประมาณ 23.45 น. ที่ บก.สส.บช.น.

พร้อมของกลาง

- อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยี่ห้อ สมิทแอนด์เวสสัน สีดำ จำนวน 1 กระบอก
- อาวุธปืนขนาด .38 ยี่ห้อ ทอร์รัส สีเงิน จำนวน 1 กระบอก

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืนยิง และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมฯ”

พฤติการณ์คือ ด้วยเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2558 เวลา 17.09 น. เกิดเหตุคนร้ายสองคนใช้รถจักรยานยนต์ เป็นยานพาหนะบุกปล้นถุงเงินสดจากพนักงานควบคุมรถขนเงิน หมายเลข 134 ของบริษัท โพรเกรส กันภัย จำกัด ที่ภายในบริเวณห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขา ถนนพระราม 1 ได้เงินสดเป็นเงินสกุลไทย และเงินสกุลต่างประเทศ รวมกันเป็นเงินจำนวน 13,165,387.29 บาท 

โดยพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้มีพฤติการณ์กระทำความผิดในลักษณะที่อุกอาจ และเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ

จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน, กองปราบ, บก.สส.บช.น., บก.น.6, สน.ปทุมวัน กองบัญชาการตำรวจนครบาลกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และ สน.ปทุมวัน โดยได้วิเคราะห์ข้อมูลแผนประทุษกรรมของ

กลุ่มคนร้ายในครั้งนี้จนกระทั่งสามารถสืบสวนทราบชื่อของกลุ่มคนร้าย และมีพยานหลักฐานเพียงพอที่เชื่อได้ว่ากลุ่มของคนร้ายได้ร่วมกันกระทำความผิดจริง จนกระทั่งศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้พิจารณาออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด แล้วติดตามจับกุมผู้ต้องได้ 3 คน จากการสอบถามนายทวีวงศ์ หรือตูน ผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่าได้คิดวางแผนก่อเหตุปล้นถุงเงิน ร่วมกับนายศาตรา หรือ ตั้ม มาเป็นระยะเวลา 1 ปี และได้สามารถลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ได้เพราะสบโอกาส โดยในวันที่ก่อเหตุ นายทวีวงศ์ ได้ให้นายมารุต หรือเบส เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อไปพบกับนายศาตรา หรือ ตั้ม ที่บริเวณศาลาซึ่งตั้งอยู่ระหว่างอาคารทิปโก้ และแยกระนอง 1 ถ.เลียบทางรถไฟ 

จากนั้นได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เพื่อเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ โดยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮา รุ่นมีโอ เอ็มเอ็กซ์ 125 สีขาวน้ำเงิน โดยมี นายศาตรา หรือ ตั้ม เป็นผู้ขับขี่ และนายทวีวงศ์ หรือ ตูน เป็นผู้นั่งซ้อนท้าย เมื่อเดินทางไปถึงห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาถนนพระราม 1 ในครั้งแรกไม่พบรถตู้ขนเงินเป้าหมาย จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปโดยมี น.ส.อารยา หรือ กระแต ซึ่งเป็นภรรยาของนายทวีวงศ์ หรือ ตูน ได้ร่วมกระทำความผิดในครั้งนี้ด้วยโดยเป็นผู้ที่ชี้เป้าในวันเกิดเหตุให้กลุ่มคนร้าย จากนั้นได้วนเข้ามาในลานจอดรถ ชั้น 2 เป็นครั้งที่สอง โดยในครั้งนี้พบรถตู้ขนเงินเป้าหมายจอดอยู่ จึงได้ไปจอดรถรอที่บริเวณทางเข้า-ออกห้าง ชั้นที่ 2 ต่อมาได้พบพนักงานของรถขนเงินถือถุงเงินเดินมาที่บริเวณด้านท้ายของรถตู้ จึงได้ลงมือก่อเหตุ และหลบหนีไปพร้อมกับถุงเงินโดยได้นัดหมายกับนายมารุต หรือเบส ให้มารอรับที่บริเวณศาลาข้างอาคารทิปโก้และ แยกระนอง 1 ถ.เลียบทางรถไฟ 

จากนั้นได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย และแยกกับนายศาสตรา หรือ ตั้ม โดยให้ไปนัดเจอกันอีกครั้งที่บริเวณริมกำแพง ใกล้ต้นโพธิ์ ชุมชนป้ายเจ็ด ถ.สวรรคโลก แขวงสวนจิตรลาด เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งมอบถุงเงินให้กับนายศาสตรา หรือ ตั้ม และต่อมาในภายหลังได้มีการแบ่งเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดให้แก่คนร้ายที่ร่วมลงมือก่อเหตุ นอกจากนนี้จากการสืบสวนยังพบว่ามี น.ส.อารยา หรือ กระแต ซึ่งเป็นภรรยาของนายทวีวงศ์ หรือตูน ได้ร่วมกระทำความผิดในครั้งนี้ด้วยโดยเป็นผู้ที่ชี้เป้าในวันเกิดเหตุโดยกลุ่มคนร้ายได้มีการแบ่งทรัพย์สินกันและนำไปใช้ซื้อทรัพย์สินต่างๆ เช่น บ้าน นาฬิกาโรเล็กซ์ สร้อยคอทองคำ พระเครื่อง ฯลฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสามารถตรวจยึดอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยี่ห้อ สมิทแอนด์เวสสัน สีดำ จำนวน 1 กระบอก และ อาวุธปืนขนาด .38 ยี่ห้อ ทอร์รัส สีเงิน จำนวน 1 กระบอก ซึ่งนายทวีวงศ์ ได้ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมว่า เป็นอาวุธปืนที่ตนกับนายศาตรา หรือ ตั้ม ได้นำไปใช้ก่อเหตุจริง โดยหลังก่อเหตุได้นำไปฝากไว้กับนายมารุต แต่นายมารุต กลัวความผิดจึงได้นำไปซุกซ่อนไว้ในถังพลาสติกที่อยู่ระหว่างบ้านพักซึ่งใช้เป็นที่เก็บขวดน้ำพลาสติก โดยนาย ทวีวงศ์ ผู้ต้องหาที่ 1 และนายมารุต ผู้ต้องหาที่ 2 ได้ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้ร่วมมือกระทำความผิดจริง ส่วน น.ส.อารยา ผู้ต้องหาที่ 3 ให้การภาคเสธ และนายศาตรา หรือ ตั้ม สุขสม ผู้ต้องหาที่หลบหนี 1 หลบหนีไป โดยอยู่ในระหว่างการสืบสวนติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป

ทั้งนี้ในการกระทำความผิดครั้งนี้ กลุ่มของคนร้ายได้ร่วมกันวางแผนลงมือกระทำความผิดในครั้งนี้เนื่องจากต้องการเงินนำไปใช้สอยเพื่อประโยชน์ส่วนตน  

- นายทวีวงศ์ หรือ ตูน ต้องการหาเงินไว้ใช้สำหรับต่อสู้คดีที่ตนถูกแจ้งดำเนินคดีที่ สน.ดินแดง ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เมื่อ 13 ส.ค.2556
มีประวัติถูกจับกุมข้อหา พกพาอาวุธปืนฯ ท้องที่ สน.นางเลิ้ง เมื่อ 29 ธ.ค.2552

- นายมารุต แก่นคำหล่อ มีประวัติถูกจับกุมข้อหา พรากผู้เยาว์ฯ ท้องที่ สภ.คลองหลวง เมื่อ 11 เม.ย.2549

- นายศาสตรา สุขสม มีประวัติ ถูกจับกุมข้อหา พยายามฆ่าฯ ท้องที่ สน.บุปผาราม เมื่อ 10 เม.ย.2554
และ ข้อหา ทำร้ายร่างกาย ท้องที่ สน.สำราญราษฎร์ เมื่อ 19 มิ.ย.2547

ที่มา FB กองบัญชาการตำรวจนครบาล https://goo.gl/GQnaKS
Read more ...

ผบช.น.ตรวจค้นบ้านผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ ธ.กสิกรไทย โลตัสพระราม 1

7/7/58
ด้วยเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2558 เวลาประมาณ 17.00 น. ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทรัพย์ของ ธนาคารกสิกรไทย สาขาเทสโก้โลตัส ถนนพระราม ๑ แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ได้เงินสดจำนวน 13,165,387.29 บาท แล้วหลบหนีไป คดีนี้คนร้ายก่อเหตุอุกอาจและเป็นที่สนใจของประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้ การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช, พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ, พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต, พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง, พล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ, พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข, พล.ต.ตนิพนธ์ เจริญผล, พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ รอง ผบช.น. ได้เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องตลอดมา

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6, พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.6 และ บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันทำการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามจับกุมคนร้าย พร้อมทรัพย์สินที่สูญหายไปตลอดมา

เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2558 เวลาประมาณ 17.00 น. จากการสืบสวนทราบว่า คนร้ายได้นำอาวุธปืนที่ใช้ในการกระทำความผิด และทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดบางส่วน มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านพักในชุมชนป้ายเจ็ด แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายค้นบ้านพักดังต่อไปนี้

1. บ้านเลขที่ 1/6 ชุมชนป้ายเจ็ด แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

โดยมีนายวรวุฒิ แกนคำหล่อ เป็นผู้นำตรวจค้น ตามหมายค้นของอาญาที่ ค.237/2558 ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2558 ผลการตรวจค้นพบ

1.อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 SPECIAL TAURUS ลูกโม่ 5 นัด จำนวน 1 กระบอก

2.อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 SPL. SMITH & WESSON 5 นัด จำนวน 1 กระบอก

3.อาวุธปืนไทยประดิษฐ ขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก

4.อาวุธปืนอาวุธปืน ยี่ห้อ king calora สีน้ำเงิน จำนวน 1 กระบอก

5.ซองปืนพก จำนวน 4 ซอง (ผ้า 3 หนัง 1 )

6.ซองพลาสติกใส่ด้ามปืนยี่ห้อ HOGUE จำนวน 1 ซอง

7.กระสุน.38 SPL (ปลอกสีเงินหัวตะกั่ว) รวม จำนวน 27 นัด

8.กระสุนขนาด.22 ใส่ในกล่องกระดาษยี่ห้อ CCI จำนวน 38 นัด

9.กล่องใส่กระสุน 9 มม. ยี่ห้อ Bullet master สีดำ รวม จำนวน 14 นัด

10.แมกซีนใส่กระสุน GLock รวม จำนวน 15 นัด

11.ชุดทำความสะอาดปืน 2 ชุด

2.บ้านไม่มีเลขที่ ชุมชนป้ายเจ็ด ถนนสวรรคโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพฯ

โดยมี เป็นผู้นำตรวจค้น ตามหมายค้นของอาญาที่ ค.238/2558 ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2558 ผลการตรวจค้นพบ

1.หมวกนิรภัย ชนิดเต็มใบ แบบเปิดหน้า สีดำ จำนวน 1 ใบ

2.รองเท้าแบบผู้ชาย สีเทา จำนวน 1 คู่

3.เสื้อคลุมแบบผู้ชาย จำนวน 2 ตัว (สีน้ำตาลเข้ม 1 ตัว, สีน้ำเงิน 1 ตัว)

4.กระเป๋าล้อลาก สีเทา-ดำ จำนวน 1 ใบ

5.นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ Rolex จำนวน 1 เรือน

6.ไอแพด จำนวน 2 เครื่อง

7.ป้ายทะเบียน รถจักรยานยนต์ กรุงเทพฯ จำนวน 1 แผ่น

8.สมุดบัญชี ธนาคารกรุงเทพ จำนวน 2 เล่ม

9.สมุดบัญชี ธนาคาร กสิกรไทย จำนวน 1 เล่ม

10.สมุดคู่มือจดทะเบียน รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 เล่ม

11.บัตร เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ จำนวน 1 ใบ

12.เงินสด 30,020 บาท

ธนบัตรฉบับละ 100 บาท จำนวน 6 ฉบับ

ธนบัตรฉบับละ 20 บาท จำนวน 142 ฉบับ

13.แหวนโลหะ สีทอง จำนวน 2 วง

14.แหวนโลหะ สีเงิน จำนวน 1 วง

15.สร้อยโลหะ สีเงิน จำนวน 1 เส้น

16.สร้องทองพร้อมพระเครื่องเลี่ยมทอง จำนวน 1 เส้น

17.สร้อยทองพร้อมจี้โลหะสีทอง จำนวน 1 เส้น

18.นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ TAG จำนวน 1 เรือน

19.แว่นกันแดด ยี่ห้อ เรแบน จำนวน 3 อัน

20.เอกสารสินเชื่อ จำนำทะเบียนรถยนต์ จำนวน 1 ชุด

21.แบบบ้านเฟื่องสุข 5 จำนวน 1 ฉบับ

22.กล่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อ ไอโฟน จำนวน 3 กล่อง

23.มีดปลายตัด ยาวประมาณ 1 ฟุต จำนวน 2 เล่ม

3. บ้านเลขที่ 63/43 ชุมชนป้ายเจ็ด ถนนสวรรคโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพฯ

ผลการตรวจค้นพบ

1.สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมพระหลวงพ่อโสธรเหลี่ยมทอง จำนวน 1 เส้น

2.ต่างหูทองคำน้ำหนักประมาณ 50 สตางค์ จำนวน 1 คู่

3.สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ จำนวน 1 เส้น

4.สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระสมเด็จเลี่ยมทอง 1 องค์ จำนวน 1 เส้น

5.สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมจี้ทองคำมะเส็ง 1 อัน จำนวน 1 เส้น

6.สร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ พร้อมจี้ 1 อัน จำนวน 1 เส้น

7.พระเลี่ยมทอง จำนวน 1 องค์

8.จี้ทองคำรูปหัวใจ จำนวน 1 อัน

9.แหวนทองคำฝังเพ็ชร จำนวน 1 วง

10.แหวนทองคำหนัก 50 สตางค์ จำนวน 5 วง

11.แหวนทองคำฝังพลอย จำนวน 3 วง

12.สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย สาขา ถนนหลานหลวง จำนวน 1 เล่ม

13.แว่นสายตาสีชมพู จำนวน 1 อัน

14.ธนบัตรรัฐบาลไทยชนิดต่างๆ รวมเป็นเงิน จำนวน 23,160 บาท

15.เงินเหรียญ 127.50 บาท

16.โฉนดที่ดิน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จดทะเบียนเมื่อ 3 ก.ค.2558 จำนวน 1 ฉบับ

สำหรับอาวุธปืนและทรัพย์สินที่ตรวจค้นพบตามรายการดังกล่าวข้างต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมเป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์การกระทำความผิดของคนร้ายต่อไป

ที่มา FBกองบัญชาการตำรวจนครบาล https://goo.gl/4mdtSE
Read more ...