จับ 3โจร แก๊งกระชากกระเป๋า

6/4/59
โดยคมชัดลึก เมื่อ 7 เม.ย.2559

ตำรวจ สน.ดินแดง โชว์จับ 3 โจรกลางกรุงฯ สมาชิก "แก๊งอโศก" หลังก่อเหตุซิ่ง รถจยย. กระชากกระเป๋าและทรัพย์สินชาวต่างชาติ พบประวัติสุดโชกโชน ก่อเหตุมานับร้อยครั้ง

สน.ดินแดง - เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 6 เมษายน 2559 

พ.ต.ท.วัชรชัย โฉมยา รอง ผกก.ป.สน.ดินแดง 
พ.ต.ต.ทองเปลว หาญไพบูลย์ สว.สส.สน.ดินแดง 
ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ ศรีส่อง รอง สวป.สน.ดินแดง และ
พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ เสียงใส สว.สส.สน.ปทุมวัน พร้อมตำรวจฝ่ายปราบปราม ฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง และตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน 

ร่วมกันจับกุมตัว

นายสุรชิต อินทะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/25 ซอยชุมชนอโศก ถนนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. 

นายเอกชัย สร้อยธรรมมา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/67 ซอยชุมชนอโศก ถนนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. และ

นายวรชน หรือแน็ค หุ่นทอง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/67 ซอยชุมชนอโศก ถนนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. 

ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 รายเป็นสมาชิก "แก๊งอโศก"ตระเวณวิ่งราวทรัพย์ชาวต่างชาติ พร้อมของกลาง กระเป๋าสตรี สีดำ 1 ใบ ต่างหูเพชร 1 คู่ มูลค่า 1 แสนบาท โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 เอส สีทอง 1 เครื่อง เงินสด 4,000 บาท รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 110 สีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน 4กย3144 กรุงเทพมหานคร และรถ จยย. ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 5กข4735 กรุงเทพมหานคร

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงค่ำของวันนี้ (6เม.ย.)ที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายปราบปรามและฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุแยกใต้ด่วนดินแดงว่า มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย 2 รายถูกคนร้ายเป็นชาย 2 รายทราบชื่อ นายสุรชิต และนายเอกชัย ขับขี่ จยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีขาว กระชากกระเป๋าสะพายภายในมีทรัพย์สินต่างหูเพชร 1 คู่ มูลค่า 1 แสนบาท โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 เอส สีทอง 1 เครื่อง เงินสด 4,000 บาท หลบหนีไป ขณะนั่งโดยสารอยู่บนรถตุ๊กตุ๊ก เพื่อกลับโรงแรม โดยเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณปากซอยราชปรารภ 14 ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

แต่ทว่ามีตำรวจ สน.ดินแดง ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้เคียง จึงขับขี่รถจยย.ไล่ติดตาม พร้อมวิทยุแจ้งจุดตรวจของ สน.ดินแดง ภายในซอยหมอเหล็ง ทั้งนี้ เมื่อคนร้ายทั้ง 2 ขับขี่หลบหนีไปรับคนร้ายอีกราย ทราบชื่อคือ นายวรชน ที่รออยู่ภายในปั๊มน้ำมัน ถนนราชปรารภ และนั่งซ้อน 3 มาจนถึงแยกหน้าสำนักงานเขตห้วยขวาง ถนนประชาราฎร์บำเพ็ญ แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. ซึ่งมีตำรวจ สน.ห้วยขวาง ตั้งจุดสกัดจับอยู่ ทำให้สามารถจับกุมนายเอกชัย เอาไว้ได้พร้อมรถจยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ส่วนคนร้ายอีก 2 ราย ได้วิ่งหลบหนีไปจี้ขู่บังคับชิงรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ ที่มีประชาชนขับสัญจรอยู่บนถนนประชาราฎร์บำเพ็ญ ซอย 14 แล้วขับขี่หลบหนีอีกครั้ง ทำให้ทางตำรวจ สน.ดินแดง บางส่วนเร่งติดตาม ขณะคนร้ายทั้ง 2 ขับขี่จยย.คันดังกล่าวหลบหนีมาเฉี่ยวชนรถที่สัญจรบริเวณถนนประชาราฎร์บำเพ็ญ แยก8 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. จนตำรวจ สน.ดินแดง สามารถติดตามจับกุมไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายพร้อมของกลางมาสอบสวนที่ สน.ดินแดง

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การยอมรับสารภาพว่า พวกตนไม่มีอาชีพทำเป็นหลักแหล่ง จึงตั้งแก๊งที่มีชื่อว่า "แก๊งอโศก" ที่เคยออกอาละวาดตระเวณวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังก่อนหน้านี้ แต่ระยะหลังถูกจับกุมไปเกือบหมดแล้ว โดยนายวรชน หรือแน็ค จึงชักชวนเพื่อนอีก 2 คน มาร่วมกันตั้งก๊วนตระเวณวิ่งราวทรัพย์อีกครั้ง ซึ่งก่อนก่อเหตุ พวกตนได้วางแผน โดยมีนายวรชน หรือแน็ค เป็นผู้สั่งการให้อีก 2 คน ขับขี่รถจยย.ไปตระเวณหาเหยื่อตามท้องถนน กระทั่งพบเหยื่อทั้ง 2 จึงลงมือเหตุ หลังจากนั้นได้หยิบทรัพย์สินในกระเป๋าแล้วทิ้งกระเป๋าใบดังกล่าวลงบึงมักกะสัน ก่อนจะมารับนายวรชน ที่มารอในปั๊มน้ำมันดังกล่าว แต่ทว่ามาถูกจับกุมเสียก่อน

ทั้งนี้ จากการสอบถามนายวรชนและนายสุรชิต รับสารภาพว่า ก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วเป็นร้อยครั้ง ส่วนนายเอกชัยรับว่าได้ทำมาเพียง 10 กว่าครั้ง ส่วนใหญ่ในท้องที่ สน.ลุมพินี สน.ทองหล่อ สน.ปทุมวัน สน.บางรัก และสน.พญาไท โดยมักเลือกเหยื่อที่เป็นชาวต่างชาติที่เดินเที่ยว หรือโดยสารรถ เนื่องจากไม่ระมัดระวังตัว และไม่ค่อยแจ้งความดำเนินคดี ส่วนทรัพย์สินที่ได้จะนำไปใช้เอง และเงินสดจะนำไปใช้เที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิง นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบประวัติอาชญากร พบว่า 

นายวรชน มีหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ 2 หมาย 
นายสุรชิต มีหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ 1 หมาย

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การต้องทำการสอบสวนขยายผลการจับกุมอีกครั้ง หากผู้เสียหายรายใดถูกคนร้ายกลุ่มนี้ก่อเหตุลักษณะดังกล่าว สามารถเดินทางเข้าอายัดตัวได้ที่ สน.ดินแดง เบื้องต้นแจ้งข้อหา 

"ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อหลบหนีให้พ้นการจับกุม" 

แก่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย และแจ้งข้อหา

"ร่วมกันชิงทรัพย์" 

แก่นายสุรชิตและนายวรชน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Read more ...