สตม.ร่วมบีทีเอส จับแก๊งล้วงกระเป๋าชาวแอลจีเรีย บนรถไฟฟ้าบีทีเอส

2/8/62
 

เมื่อ 2 ส.ค.62

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.)เปิดเผยว่า สตม. รวมกับ เจ้าหน้าที่บีทีเอส รวมกัน ควบคุมตัว แก๊งค์ต่างชาติก่อเหตุล้วงกระเป๋า ได้ 2 รายคือ

นายโอมาร์ ฮาบัด สัญชาติแอลจีเรีย และ

นายโมฮาเมด เบนบูซิด สัญชาติแอลจีเรีย 

โดยจับกุมนายโอมาร์ ได้ที่บีทีเอสสยาม เมื่อวันที่24 กรกฎาคม พร้อมด้วยของกลาง 

- เงินสกุลดอลลาร์,ไทย,
- โทรศัพท์มือถือ,
- หนังสือเดินทาง ,
- กระเป๋าสะพาย 

โดยเจ้าหน้าที่บีทีเอส เห็นพฤติกรรมคนร้ายอาศัยในช่วงชุลมุนก่อเหตุ จึงประสานมายัง สตม. จากนั้น สตม.ได้เพิกถอนวีซ่า และควบคุมตัวไว้ที่ห้องกัก สตม.เพื่อรอผลักดันส่งกลับประเทศ นอกจากนั้น ยังพบว่า นายโอมาร์ เคยก่อเหตุล้วงกระเป๋านายเควิน สัญชาติอเมริกัน ผู้เสียหาย ที่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ จากภาพจากกล้องวงจรปิด cctv เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2561

ส่วนนายโมฮาเมด ผู้ต้องหารายที่ 2 ซึ่งอยู่ในกระบวนการนี้ด้วย สตม.จับกุมได้ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่อาคารพนาสินเพลส ย่านรามคำแหง โดยเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 ได้รับอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ซึ่งการให้อยู่ในประเทศไทย สิ้นสุดลงแล้ว 

จากการตรวจสอบพบว่า เคยก่อเหตุล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวยุโรปเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ราชดำริ แต่ผู้เสียหายไม่ถูกดำเนินคดีเพราะได้ทรัพย์สินคืน สตม. ได้ประสานงานฝ่ายรักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม เพื่อติดตามเฝ้าดูพฤติกรรมเครือข่ายล้วงกระเป๋า เพื่อเป็นข้อมูลในการสืบสวนติดตามจับกุมต่อไป 

ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยังได้กำชับบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง ว่าด้วยการแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าวภายใน 24 ชั่วโมง กรณีที่เจ้าบ้าน เคหะสถาน หรือโรงแรมที่รับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ไม่แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 24 ชั่วโมง ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 มาตรา98 กรณีดังกล่าว สตม.ได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับเจ้าของที่พัก 2 ราย รายละ 800 บาท และแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบเพื่อปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น