บุกจับ “ร.ต.อ.” กลางโรงพักสุทธิสาร พัวพันค้ายา หลังเครือข่ายโดนรวบ ก่อนขยายผลพร้อมออกหมายจับ ผบก.น.2 สั่งฟันให้ออกราชการทันที พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน ผู้บังคับบัญชาก็โดนด้วย
บุกจับ วันที่ 18 มิ.ย. ที่ บช.ปส. พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ปส.2 พร้อมด้วย น.ส.ทัศพร เขี่ยวพานิช เจ้าพนักงาน ปปส.2 และตำรวจนครบาล ร่วมกันจับกุมตัว
ร.ต.อ.สัมพันธ์ กันทะสอน อายุ 38 ปี ตำแหน่งรอง สวป.สน.สุทธิสาร
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 225/2561 ลงวันที่ 18 มิ.ย.61 ข้อหาร่วมกันมียาเสะติดประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะตามเหตุที่ได้มีการสมคบกันแล้ว โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ สน.สุทธิสาร เมื่อเวลา 19.00 น. ระหว่างที่กำลังมาเข้าเวร
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ปปส.2 ได้จับกุมตัวนายอนุสรณ์ ทองสว่าง และ น.ส.อี่กองคำ สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลางไอซ์ 11.52 กรัม ยาเค 50.38 กรัม ยาอี 6 เม็ด ยาบ้า 6 เม็ด โดยสามารถจับกุมได้ที่ร้านไปรษณีย์ แคนดี้ โพสต์แอนด์เพย์ เซอร์วิส แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. ต่อเนื่องขนิษฐาแมนชั่น ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 20 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.
เนื่องจากชุดจับกุมรับแจ้งจากสายลับมีการเจรจาซื้อยาเสพติดกับผู้ใช้ไลน์ ZZZ ในกลุ่มไลน์ชื่อประจานคนโกง N&N อ้างว่ายังไม่ได้รับยาเสพติดตามที่ตกลงซื้อขายส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่ ปปส. จึงได้ตรวจสอบพบว่านายอนุสรณ์ เป็นผู้มาส่งพัสดุดังกล่าว
ต่อมาวันที่ 26 เม.ย. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เฝ้าสังเกตที่ร้านดังกล่าว นายอนุสรณ์ นำซองพัสดุ 2 ซองจะมาส่งจึงตรวจค้นพบยาเสพติดอยู่ในซองพัสดุที่นำมาส่ง ก่อนขยายผลตรวจค้นห้องพักที่ขนิษฐาแมนชั่น พบยาเสพติดเพิ่มเติมอีกส่วน และจับกุม น.ส.อี่กองคำ ซึ่งอยู่ในห้องขณะตรวจค้น จากการสอบสวนนายอนุสรณ์ ให้การอ้างว่ารับยาเสพติดของกลางมาจากผู้กองต๋อง หรือ ร.ต.อ.สัมพันธ์ จันทะสอน จึงขออนุมัติเลขาธิการ ปปส. และประสาน บช.ปส.2 ขออนุมัติ จนสามารถติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน ร.ต.อ.สัมพันธ์ กล่าวว่า ยอมรับว่ารู้จัก นายอนุสรณ์ มาประมาณ 1 ปี ซึ่งนายอนุสรณ์ เคยเป็นเจ้าของสถานบันเทิงซึ่งเปิดอยู่ในพื้นที่ สน.สุทธิสาร ที่ตนไปตรวจอยู่เป็นประจำ ส่วนเงินที่อยู่ในบัญชีของตนกว่า 1 แสนบาทนั้น ได้มาจากการเล่นแชร์ ตนขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหา 2 รายมีพฤติการณ์ส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ จึงขยายผลทั้งเส้นทางการเงินและเส้นทางการสื่อสารพบว่ามีความเชื่อมโยง รองสวป.ดังกล่าวจริง จากนั้นได้รวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลเพื่ออกหมายจับ โดยการจับกุมครั้งนี้ร่วมกับทาง บช.น. บก.น.2 และ สน.สุทธิสาร วางแนวทางร่วมกันจับกุม ทั้งนี้รองสวป.ดังกล่าวเป็นชุดจู่โจม ฝ่ายป้องกันปราบ สน.สุทธิสาร
ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่ามีหน้าที่เป็นเอเย่นต์จัดหายาเพื่อให้คนไปส่งของทางไปรษณีย์อีกทอดหนึ่ง ซึ่งรองสวป.ยังให้การปฏิเสธในตอนนี้ จึงยังไม่ถือว่าเป็นผู้ต้องหา แต่ถ้าเจ้าหน้าที่มีหลักฐานพอที่จะดำเนินคดี และขยายผลไปยังผู้อยู่เบื้องหลัง ทั้งการรับยาจากใคร และจะได้จับกุมขบวนการดังกล่าวต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 20.40 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจาก พ.ต.อ.เติมเผ่า ศิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร แล้ว เบื้องต้นได้สั่งให้ ร.ต.อ.สัมพันธ์ ออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง รวมถึงให้รายงานตัวต้องคดีอาญากับผู้บังคับบัญชาด้วย
ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชาในระดับ สวป., รอง ผกก.ป. และ ผกก. ต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงด้วย ตามคำสั่ง 1212/2537 เนื่องจากปล่อยปะละเลยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปกระทำความผิด
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ปปส.2 ได้จับกุมตัวนายอนุสรณ์ ทองสว่าง และ น.ส.อี่กองคำ สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลางไอซ์ 11.52 กรัม ยาเค 50.38 กรัม ยาอี 6 เม็ด ยาบ้า 6 เม็ด โดยสามารถจับกุมได้ที่ร้านไปรษณีย์ แคนดี้ โพสต์แอนด์เพย์ เซอร์วิส แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. ต่อเนื่องขนิษฐาแมนชั่น ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 20 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.
เนื่องจากชุดจับกุมรับแจ้งจากสายลับมีการเจรจาซื้อยาเสพติดกับผู้ใช้ไลน์ ZZZ ในกลุ่มไลน์ชื่อประจานคนโกง N&N อ้างว่ายังไม่ได้รับยาเสพติดตามที่ตกลงซื้อขายส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่ ปปส. จึงได้ตรวจสอบพบว่านายอนุสรณ์ เป็นผู้มาส่งพัสดุดังกล่าว
ต่อมาวันที่ 26 เม.ย. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เฝ้าสังเกตที่ร้านดังกล่าว นายอนุสรณ์ นำซองพัสดุ 2 ซองจะมาส่งจึงตรวจค้นพบยาเสพติดอยู่ในซองพัสดุที่นำมาส่ง ก่อนขยายผลตรวจค้นห้องพักที่ขนิษฐาแมนชั่น พบยาเสพติดเพิ่มเติมอีกส่วน และจับกุม น.ส.อี่กองคำ ซึ่งอยู่ในห้องขณะตรวจค้น จากการสอบสวนนายอนุสรณ์ ให้การอ้างว่ารับยาเสพติดของกลางมาจากผู้กองต๋อง หรือ ร.ต.อ.สัมพันธ์ จันทะสอน จึงขออนุมัติเลขาธิการ ปปส. และประสาน บช.ปส.2 ขออนุมัติ จนสามารถติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน ร.ต.อ.สัมพันธ์ กล่าวว่า ยอมรับว่ารู้จัก นายอนุสรณ์ มาประมาณ 1 ปี ซึ่งนายอนุสรณ์ เคยเป็นเจ้าของสถานบันเทิงซึ่งเปิดอยู่ในพื้นที่ สน.สุทธิสาร ที่ตนไปตรวจอยู่เป็นประจำ ส่วนเงินที่อยู่ในบัญชีของตนกว่า 1 แสนบาทนั้น ได้มาจากการเล่นแชร์ ตนขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหา 2 รายมีพฤติการณ์ส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ จึงขยายผลทั้งเส้นทางการเงินและเส้นทางการสื่อสารพบว่ามีความเชื่อมโยง รองสวป.ดังกล่าวจริง จากนั้นได้รวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลเพื่ออกหมายจับ โดยการจับกุมครั้งนี้ร่วมกับทาง บช.น. บก.น.2 และ สน.สุทธิสาร วางแนวทางร่วมกันจับกุม ทั้งนี้รองสวป.ดังกล่าวเป็นชุดจู่โจม ฝ่ายป้องกันปราบ สน.สุทธิสาร
ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่ามีหน้าที่เป็นเอเย่นต์จัดหายาเพื่อให้คนไปส่งของทางไปรษณีย์อีกทอดหนึ่ง ซึ่งรองสวป.ยังให้การปฏิเสธในตอนนี้ จึงยังไม่ถือว่าเป็นผู้ต้องหา แต่ถ้าเจ้าหน้าที่มีหลักฐานพอที่จะดำเนินคดี และขยายผลไปยังผู้อยู่เบื้องหลัง ทั้งการรับยาจากใคร และจะได้จับกุมขบวนการดังกล่าวต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 20.40 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจาก พ.ต.อ.เติมเผ่า ศิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร แล้ว เบื้องต้นได้สั่งให้ ร.ต.อ.สัมพันธ์ ออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง รวมถึงให้รายงานตัวต้องคดีอาญากับผู้บังคับบัญชาด้วย
ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชาในระดับ สวป., รอง ผกก.ป. และ ผกก. ต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงด้วย ตามคำสั่ง 1212/2537 เนื่องจากปล่อยปะละเลยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปกระทำความผิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น