ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)
พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.
พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น.
พล.ต.ต.พงษ์พันธุ์ วรรณภักตร์ ผบก.น.1
พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พร้อมด้วย
พ.ต.อ.ชณาวิน พวงเพชร ผกก.สน.พญาไท
พ.ต.ท.ปรีชา สาวม่วง รอง ผกก.ป.ฯ
พ.ต.ท.สมชาย กุลวิเชียร รอง ผกก.จร.ฯ
พ.ต.ท.ประวิทย์ สุกใส สว.ป.ฯ และ
เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พญาไท
แถลงผลการจับกุม
นายสุรพล ประสวนศรี หรือ พล อายุ 46 ปี
พร้อมของกลาง
- โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง จำนวน 2 เครื่อง
- เงินสด จำนวน 8,000 บาท
- อาวุธมีด(พับ) ยาวประมาณ 6 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม
- บัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจโรงเรียนตำรวจภูธรภาค3 ระบุชื่อ พลสำรอง จิตกร ยศรุ่งเรือง จำนวน 1 ใบ
- กระเป๋าผ้า(แบบสะพาย) สีน้ำเงิน จำนวน 1 ใบ
- รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กข-8490ยโสธร จำนวน 1 คัน
โดยสามารถจับกุมได้บริเวณคิวรถตู้ติดกับตู้สัญญาณไฟจราจรอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม. ในข้อหา
- ปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
- ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น
- ร่วมกันพกพาอาวุธ(มีด)ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร
- ร่วมกันแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น และมิได้เป็นเจ้าพนักงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้รับบำเหน็จบำนาญ
- ร่วมกันใช่หรือแสดงบัตรประจำตัวว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับบำเหน็จบำนาญ
พ.ต.อ.ชณาวิน กล่าวว่า “เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้เสียหายทั้ง 4 คน ได้แก่
พ.ต.อ.ชณาวิน กล่าวว่า “เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้เสียหายทั้ง 4 คน ได้แก่
นายแพะเจี่ยน
นางสาวซอกฮัว
นางสาวพอนเซียน และ
นางสาวซีเสร็ง
เดินทางมาที่ขนส่งหมอชิต เพื่อที่จะเดินทางไปทำงานที่บ้านเพ จังหวัดระยอง ระหว่างนั้นนายสุรพล ขับรถแท๊กซี่ป้ายดำมาจอดตรงหน้า และแนะนำให้ผู้เสียหายไปขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีฯ เพื่อที่จะไปจังหวัดระยอง โดยคิดค่าโดยสารคนละ 60 บาท ผู้เสียหายจึงตกลงและขึ้นรถแท็กซี่ของนายสุรพล
ต่อมามีขาย 2 คนไม่ทราบชื่อ เข้ามาในรถ โดยคนแรกนั่งข้างซ้ายจองคนขับ ชื่อนายชัย(ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) และอีกคนนั่งด้านหลังซ้าย ชื่อนายวิริยะ ผิวบาง หรือ ตี๋ พร้อมกับอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ และข่มขู่ผู้เสียหายว่าประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นได้เสนอให้ผู้เสียหายนำเงินมาให้คนละ 10,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ระหว่างนั้นผู้เสียหายชูพาสปอร์ตให้ดูว่าตนพึ่งไปต่ออายุมา ทำให้นายตี๋โมโหตบเข้าที่บ้องหูของนายแพะเจี่ยน
จากนั้นนายตี๋ควักอาวุธปืน ข่มขู่เอาทรัพย์สินจากผู้เสียหายได้เงินสดไปหมด 8,000 บาท แล้วลงจากรถไป ต่อมานายสุรพลขับรถพาผู้เสียหายมาส่งที่อนุสาวรีย์ฯ ระหว่างนั้นพบเจ้าหน้าที่ตำรวจจร.สน.พญาไทกำลังปฏิบัติหน้าที่ ผู้เสียหายจึงเข้าไปแจ้งเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จึงสมารถควบคุมตัวนายสุรพลไว้ได้ เนื่องจากมีรถตู้จอดขวางรถแท็กซี่ไว้”
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไทได้ทำการสอบสวนนายสุรพล และแจ้งข้อหาให้ทราบ รวมทั้งทำการสืบสวนติดตามนายชัย และนายวิริยะ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไทได้ทำการสอบสวนนายสุรพล และแจ้งข้อหาให้ทราบ รวมทั้งทำการสืบสวนติดตามนายชัย และนายวิริยะ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น