พ.ต.ต.ปกรณ์ ทองช่วง สว.สส.สน.ประเวศ
พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ ฝั้นมงคล สว.สส.สน.ประเวศ
ร.ต.อ.ธงชัย แก้วทา รอง สว.สส.สน.ประเวศ
ร.ต.ต.ชัยวัฒน์ เสือสา รอง สว.สส.สน.ประเวศ พร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ จับกุม
นายรทนะ หรือช้าง จูทะจันทร์ อายุ 41 ปี
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ลงวันที่ 24 ต.ค.56 ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
คดีนี้ ตำรวจจับกุมตัวนายรทนะ หลังเกิดเหตุมากว่า 1 ปี โดยจับกุมได้ที่ ซ.รามคำแหง 21 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหาย เป็นผู้ช่วยพยาบาล พร้อมนายรทนะ ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ว่า ได้ถูกคนร้ายลักรถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ สวิฟท์ ป้ายแดง ของผู้เสียหายหลบหนีไป จากบริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่าน ถ.พัฒนาการ
ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่านายรทนะ และผู้เสียหาย เข้าไปโรงแรม แล้วนายรทนะ อาศัยช่วงจังหวะที่ผู้เสียหายเผลอ โมยกุญแจรถไปให้เพื่อนร่วมแก๊ง ขับรถหลบหนีไป แล้วนำกุญแจมาเก็บไว้ที่เดิม เมื่อผู้เสียหายตื่นขึ้น ก็แสร้งทำทีไม่รู้ไม่เห็นและตกใจไปกับผู้เสียหาย แล้วพากันไปแจ้งความ
ต่อมาตำรวจสืบสวนทราบว่า เพื่อนร่วมแก๊งของนายรทนะ คือ น.ส.บุญญาภา พุทธวัตน์ ซึ่งเป็นญาติกัน จึงวางแผนล่อซื้อรถที่ขโมยไป จนจับกุมได้พร้อมรถของกลาง น.ส.บุญญาภา ให้การซัดทอดว่า นายรทนะ เป็นผู้วางแผน ตำรวจจึงออกหมายจับนายรทนะ แต่นายรทนะ หลบหนีไป จนมาถูกจับกุม
นายรทนะ ให้การยอมรับว่า ตนเองไม่มีงานทำ อาศัยความเป็นคนหน้าตาดี เข้าไปจีบผู้เสียหาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ช่วยพยาบาล แล้วคุยไลน์ คุยโทรศัพท์กันจนเชื่อใจ แล้วจึงนัดไปร่วมหลับกันตามโรงแรมต่าง ๆ เมื่อสบโอกาสก็จะขโมยกุญแจ แล้วลักรถไป ได้รับส่วนแบ่งจากการขายรถ 30,000 บาท แต่ปฏิเสธว่าทำเป็นครั้งแรก ซึ่งจากการตรวจสอบพฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่มีการทำเล่มทะเบียนปลอมและการประกาศขายรถผ่านทางอินเตอร์เน็ต โปรแกรมไลน์ และเต็นท์รถมือสอง ทำให้สงสัยว่าน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ลงวันที่ 24 ต.ค.56 ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
คดีนี้ ตำรวจจับกุมตัวนายรทนะ หลังเกิดเหตุมากว่า 1 ปี โดยจับกุมได้ที่ ซ.รามคำแหง 21 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหาย เป็นผู้ช่วยพยาบาล พร้อมนายรทนะ ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ว่า ได้ถูกคนร้ายลักรถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ สวิฟท์ ป้ายแดง ของผู้เสียหายหลบหนีไป จากบริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่าน ถ.พัฒนาการ
ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่านายรทนะ และผู้เสียหาย เข้าไปโรงแรม แล้วนายรทนะ อาศัยช่วงจังหวะที่ผู้เสียหายเผลอ โมยกุญแจรถไปให้เพื่อนร่วมแก๊ง ขับรถหลบหนีไป แล้วนำกุญแจมาเก็บไว้ที่เดิม เมื่อผู้เสียหายตื่นขึ้น ก็แสร้งทำทีไม่รู้ไม่เห็นและตกใจไปกับผู้เสียหาย แล้วพากันไปแจ้งความ
ต่อมาตำรวจสืบสวนทราบว่า เพื่อนร่วมแก๊งของนายรทนะ คือ น.ส.บุญญาภา พุทธวัตน์ ซึ่งเป็นญาติกัน จึงวางแผนล่อซื้อรถที่ขโมยไป จนจับกุมได้พร้อมรถของกลาง น.ส.บุญญาภา ให้การซัดทอดว่า นายรทนะ เป็นผู้วางแผน ตำรวจจึงออกหมายจับนายรทนะ แต่นายรทนะ หลบหนีไป จนมาถูกจับกุม
นายรทนะ ให้การยอมรับว่า ตนเองไม่มีงานทำ อาศัยความเป็นคนหน้าตาดี เข้าไปจีบผู้เสียหาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ช่วยพยาบาล แล้วคุยไลน์ คุยโทรศัพท์กันจนเชื่อใจ แล้วจึงนัดไปร่วมหลับกันตามโรงแรมต่าง ๆ เมื่อสบโอกาสก็จะขโมยกุญแจ แล้วลักรถไป ได้รับส่วนแบ่งจากการขายรถ 30,000 บาท แต่ปฏิเสธว่าทำเป็นครั้งแรก ซึ่งจากการตรวจสอบพฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่มีการทำเล่มทะเบียนปลอมและการประกาศขายรถผ่านทางอินเตอร์เน็ต โปรแกรมไลน์ และเต็นท์รถมือสอง ทำให้สงสัยว่าน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาถูกขึ้นทะเบียนเป็นผู้ต้องหาตามปฏิทินโจร รางวัลนำจับ 30,000 บาท ซึ่งมีผลดี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ดียิ่งขึ้น
ที่มา
ข่าวสดออนไลน์ http://goo.gl/oug7bj
ไทยรัฐออนไลน์ http://goo.gl/3BK9qj
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น