ตั้งกรรมการสอบตำรวจ ไม่ควบคุมตัว แอนนา รีส ตรวจแอลกอฮอล์ทันทีหลังเกิดเหตุ

30/6/58
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี น.ส.แอนนา แฮมบาวรีส หรือ แอนนา รีส ดารานางแบบ ขับรถยนต์เบนซ์ ชนท้ายรถตำรวจที่จอดนอนอยู่ริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์ เป็นเหตุให้ ร.ต.ท.นภาดล วงษ์บัณฑิต รอง สวป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ช่วยราชการจราจรกลาตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เสียชีวิต

เหตุเกิด บริเวณด้านหน้าบริษัท บีเอ็มซี โฮมมาร์ท จำกัด จำหน่ายหินอ่อน บนถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้า กม.1 แขวงและเขตประเวศ กทม. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2558 เวลาประมาณ 03.00 น.

โดยเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2558 พ.ต.อ.อุทิศ จันทะศรี พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ประเวศ เปิดเผยว่า พ.ต.อ.เมธา เจียมไกรศรี ผกก.สน.ประเวศ ได้ตั้งให้ตนเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวน กรณีที่ น.ส.แอนนา ขับรถชนรถ ร.ต.ท.นภาดล เสียชีวิต โดยจะสอบสวนนายตำรวจที่อยู่ในเวลานั้นทั้งหมด โดยมีประเด็นที่สาธารณชนเกิดข้อสงสัยทั้งหมด คือ

1.เหตุใดไม่ทำการควบคุมตัวหลังเกิดเหตุ

2.เหตุใดจึงไม่ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์หลังเกิดเหตุ และ

3.เหตุใดจึงปล่อยตัวผู้ก่อเหตุกลับบ้านไปก่อน

ซึ่งประเด็นข้อสงสัยทั้งหมดจะต้องตอบคำถามให้กับสังคมได้อย่างครบถ้วนชัดเจนมากที่สุด

และจะให้ผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงอย่างละเอียด และจะรายงานผู้บังคับบัญชาตามระเบียบ ภายใน 30 วัน ผลการสอบสวนเป็นอย่างไรจะชี้แจงให้ทราบอีกครั้ง

ที่มา เว็บไซต์เนชั่นทีวี http://goo.gl/Ph700f

Read more ...

ตำรวจพัทยาจับตำรวจปลอม กรรโชกเงินชาวกัมพูชา ขายผลไม้รถเข็น

29/6/58
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 58 เวลา 22.00 น.

พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา
พ.ต.ท.โกวิทย์ สวัสดิ์มงคล สวป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองพัทยา

ได้ร่วมกันจับกุม

นายอารี อารยะ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/1 ม.6 ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

หลังแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกเก็บเงินจากนายคอน อายุ 24 ปี ชาวกัมพูชา อาชีพรถเข็นขายผลไม้ เดือนละ 500 บาท

ตำรวจเปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า นายอารี มาอ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.เมืองพัทยา กรรโชกทรัพย์จากนายคอน จำนวน 300 บาท แลกกับการไม่จับกุมดำเนินคดี เหตุเกิดบริเวณปากซอย 13 ถ.พัทยาสายสอง

โดยหลังเกิดเหตุนายอารี ได้ขับรถยนต์ออกไปทางวงเวียนปลาโลมา พัทยาเหนือ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิทยุสกัด เพื่อตรวจสอบ ตรวจค้นในตัวนายอารี พบเงินสดที่นายคอน มอบให้ จำนวน 300 บาท จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนนายคอน ชาวกัมพูชา ผู้เสียหายให้การว่าขณะเข็นรถขายผลไม้อยู่ ได้ถูกนายอารี เข้ามาแสดงตัวอ้างเป็นตำรวจ สอบถามว่าได้จ่ายเงินรายเดือนให้ตำรวจหรือไม่ เมื่อนายคอนตอบไปว่าไม่ได้จ่าย นายอารี จึงข่มขู่ว่าต้องจ่ายเงินรายเดือน เดือนละ 500 บาท เพื่อเป็นค่าคุ้มครอง ถ้าไม่จ่ายเงินจะถูกจับกุมดำเนินคดี ด้วยความกลัวจึงควักเงินจำนวน 300 บาทให้นายอารีไป แต่มีพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม

ตรวจสอบแล้ว นายอารี ไม่ได้เป็นตำรวจ และยอมรับว่าเป็นคนเรียกเก็บเงินรายเดือนจากนายคอนจริง แต่ไม่ได้พูดว่านำเงินไปให้ใคร อย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัว ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

ที่มา นสพ.ข่าวสด เมื่อ 27 มิ.ย.2558 http://goo.gl/aATYRu
Read more ...

จับ รปภ.ลวงสาวกัมพูชาหวังร่วมเพศ เหยื่อหลบหนีพลัดตกตึกชั้น 3 เสียชีวิต

28/6/58
ที่มา นสพ.ข่าวสดออนไลน์ เมื่อ 19 มิ.ย.2558 http://goo.gl/28BIHH

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2558 เวลา 16.30 น.

พ.ต.อ.สันทัด ลยางกูร ผกก.สน.ร่มเกล้า
พ.ต.ท.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ สว.สส.สน.ร่มเกล้า
ร.ต.อ.จารุวัจน์ ศรีราเพ็ญ รอง สว.สส.สน.ร่มเกล้า
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ร่มเกล้า

แถลงข่าวการจับกุม

นายชรินทร์ จงทอง อายุ 46 ปี ชาว ต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก

ผู้ต้องหาก่อเหตุหน่วงเหนี่ยวกักขังและพยายามข่มขืนหญิงสาวชาวกัมพูชา

โดยจับกุมได้ที่ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาสะพานใหม่ ซ.พหลโยธิน 50 ถ.พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2558 เวลา 13.00 น. พนักงานสอบสวน สน.ร่มเกล้าได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เหตุหญิงสาวพลัดตกจากที่สูง ที่ห้องพักเลขที่ 119/115 ชั้น 3 ของอาคาร 5 แฟลตปากบึง ร่มเกล้า แขวงคลองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. โดยผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.นวมินทร์ 1 ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อภายหลัง น.ส.เปา อายุ 23 ปี สัญชาติกัมพูชา ทำงานเป็นลูกจ้างร้านอาหาร ย่านรามคำแหง

จากการตรวจสอบของตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ร่มเกล้า ทราบว่า ขณะเกิดเหตุ มีนายชรินททร์ อาชีพ รปภ.ของ ม.รามคำแหง อยู่กับผู้ตาย แล้วหลบหนีไปในวันเกิดเหตุ จึงติดตามตัวมาสอบสวน ขณะหลบไปพักอาศัยกับเพื่อนที่ย่านสะพานใหม่

นายชรินทร์ ให้การยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุได้หลอกลวงผู้ตายว่าสามารถช่วยทำบัตรทำงานในประเทศไทยได้ และได้ชักชวนให้มานั่งดื่มสุราที่ห้องพักของตน เมื่อมีอาการมึนเมาจึงชวนผู้ตายร่วมเพศ แต่ผู้ตายไม่ยินยอม ตนจึงปลุกปล้ำ ผู้ตายวิ่งหลบหนีจะออกนอกประตูห้อง ตนลุกขวางประตูไว้พร้อมยึดมือถือไว้ ผู้ตายจึงวิ่งออกทางด้านหลังห้อง แล้วปีนออกนอกระเบียง แต่พลัดตกลงไปด้านล่าง ได้รับบาดเจ็บ ตนเองเกรงกลัวความผิดจึงขี่ จยย.หลบหนีไปพักที่บ้านเพื่อน ก่อนถูกจับกุมดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสงสัยว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ชอบแอบอ้างกับหญิงสาวชาวต่างด้าวว่าสามารถทำบัตรทำงานในประเทศไทยได้ถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถหางานทำใหม่ได้ สามารถหาคู่สมรสที่เป็นคนไทยที่มีฐานะดีได้อีกด้วย

ตำรวจได้แจ้งข้อหา

- หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
- กระทำอนาจารแก่บุคคลโดยใช้กำลังประทุษร้าย พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง ใช้กำลังประทุษร้าย

จับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ร่มเกล้า ดำเนินคดี
Read more ...

ตำรวจสอบสวนกลางจับแก๊งคนดำ หลอกลวงหญิงไทยและอาชญากรรมคอมพิวเตอร์

26/6/58
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาปลอมแปลงเอกสารทางเทคโนโลยี ฉ้อโกงประชาชน โดยจับกุม

ผู้ต้องหาชาวแอฟริกากว่า 16 คน

ของกลาง

- โทรศัพท์มือถือกว่า 150 เครื่อง
- หนังสือเดินทางปลอม 25 เล่มและ
- อุปกรณ์ปลอมแปลงหนังสือเดินทาง
- หนังสือเดินทางจริง 50 เล่ม
- ตราประทับสถานทูตออสเตรเลียและไนจีเรียปลอม
- สมุดบัญชีธนาคาร 70 เล่มและ
- คอมพิวเตอร์กว่า 10 เครื่อง

โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในหลายพื้นที่ ย่านรามคำแหง หัวหมาก บางกะปิ

พฤติกรรมของคนร้ายแก๊งนี้ จะใช้รูปแบบการหลอกลวงเหยื่อผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ด้วยวิธีการตามความถนัดเฉพาะตัว 2 ลักษณะคือ

1. การส่งอีเมล์ที่มีไวรัสไปหาเหยื่อ เพื่อขโมยข้อมูลรหัสผ่านอีเมล์ โดยเลือกเหยื่อที่เป็นบริษัททำการค้า จากนั้นก็จะทำการปลอมแปลงอีเมล์ดังกล่าว เพื่อหลอกให้บริษัทคู่ค้าหลอกโอนเงินมาให้

2. หลอกว่าเป็นนายทหาร นักบิน หรือหมอ อยู่ต่างประเทศ หลอกลวงหญิงไทย ว่าจะแต่งงานด้วย โดยสร้างเรื่องว่า ได้ส่งของหมั้นมาให้แต่ติดอยู่ที่ศุลกากร ต้องให้เหยื่อโอนเงินเป็นค่าภาษีเพื่อไถ่ออก หรือแสร้งว่ากำลังเดินทางมาแต่งงานด้วย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ ตม.กักตัวเอาไว้ ต้องโอนเงินมาเสียค่าปรับจึงจะออกไปได้ หรือใช้วิธีการคบกับหญิงชาวไทยเพื่อหลอกเอาบัญชีของเหยื่อไปทำธุรกรรม โดยอ้างว่าทำธุรกรรมเพื่อทำธุรกิจ โดยมีผู้หญิงหลงเชื่อสูญเสียเงินไปหลายแสน ซึ่งส่วนใหญ่เป้าหมายเป็นหญิงไทย ประมาณ 40-60 ปี

ที่มา js100
Read more ...

สน.ตลิ่งชัน จับกุมยาบ้า 20,000 เม็ด

24/6/58

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.58 เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจู่โจมและฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้ร่วมกันจับกุม 

นายกิตติพล หรือแจ๊ค สีฟ้า อายุ28ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/24 หมู่ 2 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง จ.ระนอง 

โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย 

ของกลาง

- ยาบ้า 20,000เม็ด 

จับกุมตัวพร้อมของกลางได้ บริเวณสถานีขนส่ง ผู้โดยสารกรุงเทพ นำตัวมาสอบสวนขยายผล 

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า รับจ้างขนยาบ้าดังกล่าว ในราคา 10,000 บาท มาจากนายเอก ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ซึ่งเป็นคนรู้จักกัน ให้นำของกลางไปส่งให้ลูกค้า ทางภาคใต้แถว จ.ระนอง แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่าง การสืบสวนขยายผล เครือข่าย เพื่อดำเนินการต่อไป
 จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
Read more ...

สายตรวจ สน.ท่าข้าม จับแก๊งเยาวชนลักรถจักรยานยนต์จำนวนมาก

24/6/58
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2558 เวลา  03.30 น. น.จนท.ตำรวจสายตรวจ สน.ท่าข้าม ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 6 คน คือ

1.นายเอ อายุ 15 ปี

2.ด.ช.บี อายุ 14 ปี

3.นายซี อายุ 17 ปี

4.น.ส.ดี อายุ 15 ปี

5.นายอี อายุ 15 ปี

6.ด.ช.เอฟ อายุ 11 ปี

พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ 5 คัน ดังนี้

1.รถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซีแซดไอ สีขาวแดง ทะเบียน 1กบ422 กทม.(ลักมาจากเอกชัย 52)

2.รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟแซด สีดำ ทะเบียน พตต-833 กทม.(ลักมาจากบางบอน 3)

3.รถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟแซด สีแดง ทะเบียน พกษ991 กทม.(ลักมาจากบางบอน 5)

4.รถ จยย.ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นคาเซ่ สีน้ำเงิน ทะเบียน พขพ 671 กทม.(ลักมาจากเอกชัย 45)

5.รถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า ดรีม สีขาว ไม่ติดป้ายทะเบียน (ลักมาจากเอกชัย 72)

พฤติการณ์เบื้องต้น  จนท.ตำรวจสายตรวจได้เรียกตรวจค้นรถ จยย.ผู้ต้องหาที่ได้หลบหนีการตรวจค้น จึงได้เรียกกำลังติดตาม จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดจำนวน 6 คน พร้อมรถ จยย.จำนวน 4 คัน และได้ติดตามเพิ่มเติมได้อีก 1 คัน รวม 5 คัน ซึ่งจอดทิ้งไว้บริเวณ ซอยบางบอน 4  เบื้องต้น ทั้งหมดให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ลักรถ จยย. ทั้งหมดมาจริง 
    
ตรวจสอบแล้ว แจ้งหายที่ สน.บางขุนเทียนจำนวน 3 คัน อีก 2 คัน อยู่ระหว่างตรวจสอบ
Read more ...

จับทหารปลอม ยศร้อยเอก กรรโชกทรัพย์ชาวบ้านบุรีรัมย์

22/6/58
ที่มา เว็บไซต์ นสพ.บ้านเมือง http://www.banmuang.co.th/news/crime/19624

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2558

พ.ต.อ.สานนท์ สามนปาล ผกก.สภ.พุทไธสง
พ.ต.ท.มังกร พงษ์นิยะกูล รอง ผกก.สส.ฯ
พ.ต.ท.บุญธรรม สมบูรณ์ รอง ผกก.ป.ฯ
นายเดี่ยว ยอรัมย์ ปลัดอำเภอพุทไธสง,
จ.อ.อานนท์ ใจภักดี ปลัดอำเภอฯ และ
พ.ต.สมภพ คำสะอาด สัสดีอำเภอพุทไธสง

ร่วมกันจับกุม

นายพุทธา ไชยวงษา อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่ 3 ต.ทรัพย์สมบูรณ์ อ.โคกโพธิ์ชัย จ.ขอนแก่น 

พฤติการณ์จับกุม

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านในหมู่ 1 ต.บ้านแวง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีทหารยศร้อยเอก สังกัดจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ มาข่มขู่เรียกรับเงิน 30,000 บาทจากชาวบ้าน โดยอ้างว่า ชาวบ้านมีไม้แปรรูปผิดกฎหมายอยู่ในบ้าน แต่ชาวบ้านได้โทรศัพท์์แจ้งปลัดอำเภอและตำรวจ สภ.พุทไธสง ให้ออกมาตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ขอตรวจสอบบัตรประจำตัวทหาร นายพุทธา ไม่สามารถแสดงบัตรได้ และยอมรับว่าเป็นทหารตัวปลอม แต่งเครื่องแบบมาเพื่อข่มขู่เรียกเงินจากชาวบ้าน

สอบถามผู้เสียหาย แจ้งว่า นายพุทธา อ้างว่าตนเป็นนายทหารจากจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ มาตรวจสอบล่วงหน้า กรณีมีการร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม จ.บุรีรัมย์ว่าบ้านของตนมีไม้แปรรูปผิดกฎหมาย ชาวบ้าน

ปฏิเสธว่าไม่มี แต่นายพุทธา ยืนยันจะจับกุม โดยจะเรียกกำลังทหารมาจับกุม หากไม่ต้องการถูกจับให้นำเงินจำนวน 30,000 บาทมาจ่าย แต่เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีเงิน จึงขอเวลาหาเงิน 30 นาที โดยโทรศัพท์ไปสอบถามปลัดอำเภอ และขอความช่วยเหลือให้ปลัดมาตรวจสอบ

สอบสวนนายพุทธา ผู้ต้องหายอมรับว่า ได้แต่งชุดทหารออกกรรโชกเงินจากชาวบ้านตามหมู่บ้านต่าง ๆ มาหลายครั้งแล้วโดยอ้างตัวว่าเป็นชุดส่วนหน้า ที่ได้รับร้องเรียนจากศูนย์ดำรงธรรม จ.นั้น ๆ โดยหลอกลวงว่าบ้านของชาวบ้านมีสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ  โดยเฉพาะไม้แปรรูป  ซึ่งตามต่างจังหวัดจะมีอยู่มาก
Read more ...

สภ.โกสุมพิสัย มหาสารคาม จับทหารปลอม ยศพันโท

22/6/58
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2558 เวลา 16.30 น.ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม

นายชยาวุธ จันทร ผวจ.มหาสารคาม
พล.ต.ต.พินิจ มณีรัตน์ ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม
พ.อ.ธวัชชัย แจ้งประจักษ์ ผบก.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมหาสารคาม
พ.ต.อ.ธวัชชัย สัตยพัฒน์ ผกก.สภ.โกสุมพิสัย

แถลงข่าวจับกุม

นายจิรวัฒน์ ทาธวัช อายุ 42 ปี บ้านแลขที่ 182 หมู่ 5 บ้านเอียด ต.เขวา อ.เมือง จ.มหาสารคาม


พร้อมของกลาง 

- เครื่องแบบนายทหาร 
- บัตรข้าราชการทหารยศพันโท และพันตรี จิรวัฒน์ ทาธวัช ตำแหน่ง นายทหารการข่าว ศรภ. 
- เครื่องหมายทหารยศพันโท 
- เอกสารสลิปเงินเดือนของทหาร สังกัด การข่าวศรภ.บก.ทท 
- อาวุธปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน 
- รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่น HRV สีดำ หมายเลขทะเบียน กร-994 อุดรธานี และ
- วิทยุสื่อสาร
ดำเนินคดีข้อหา 

- ปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ
- มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
- มีวิทยุสื่อสารไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ก่อนจับกุมได้รับแจ้งมีคนแอบอ้างเป็นนายทหารมาเก็บส่วยในพื้นที่ จ.มุกดาหาร อำนาจเจริญ รอยเอ็ด เมื่อออกไปตรวจสอบ ที่ร้านกะติ๋วคอมพิวเตอร์ ในเขตเทศบาลตำบลโกสุมพิสัย จึงพบตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางทั้งหมด

ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า ประกอบอาชีพร้านคอมพิวเตอร์ ชอบเป็นทหาร จึงซื้อเครื่องแบบทหารมาใส่ และทำบัตรประจำตัวทหารปลอม ทำมากว่า 10 ปีแล้ว เพื่อประโยชน์ในการติดต่อธุรกิจและจีบผู้หญิง โดยอ้างตัวว่าเป็นทหาร ทำงานด้านการข่าว ที่ผ่านมามีผู้หญิงมาติดพันกับตนหลายคน โดยตนใช้ชื่อว่า ผู้พันบอย บางคนคบหาเป็นแฟนกับตน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
Read more ...

สน.คันนายาว ตั้งจุดตรวจจับกุมดอลล่าร์ปลอม

21/6/58
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.58 เวลา 11.00น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผบก.น.2 แถลงข่าวการจับกุม 

นายอาวุธ ศิริรัตน์  อายุ 32 ปี

พร้อมของกลาง ธนบัตรดอลลาร์ปลอม จำนวน 4,900 ฉบับ มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท

ธนบัตรดอลล่าร์ปลอม ผลงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว ตั้งจุดตรวจค้นบริเวณแยกนวลจันทร์ 
Read more ...

2 คนร้ายชิงทรัพย์ถุงเงิน 8.4 ล้านบาท ธ.กสิกรไทย โลตัสพระราม1 หลบหนีลอยนวล

19/6/58
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2558 เวลา 17.20 น. เกิดเหตุชิงทรัพย์ บริเวณลานจอดรถ ห้างโลตัส ถ.พระราม 1

ทรัพยสินที่ถูกประทุษร้ายคือ 

- เงินจำนวน 1 ถุง (ประมาณ 8.4 ล้านบาท)ของ ธ.กสิกรไทย สาขาโลตัส พระราม1
 
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ทราบว่า เวลาประมาณ 17.15 น. ได้มีพนักงานขนเงิน ของ ธ. กสิกรไทย สาขาโลตัส พระราม 1 ประกอบด้วย
 
1.นายเอกพันธ์ แจ้งสิทธิธาเวส (คนถูกล็อกกุญแจมือ)

2.นายยุทธพิชัย กลั่นประสม

3 นายณัฐวะฒน์ ใจแก้ว

ได้นำรถเข็นขนเงิน จากธนาคารกสิกรไทย ชั้น 3 ลงมา บริเวณที่จอดรถชั้น 2 เพื่อขนย้ายเงิน ทันใดนั้นได้มีคนร้าย 2 คน สวมหมวกกันน๊อค สวมเสื้อแจ๊คเก็ททั้ง 2 คน คนร้าย 1 คน ได้ใช้อาวุธปืนยิงขู่ 2 นัด และอีกคนใช้กุญแจมือล็อคคนายเอกพันธ์ไว้ แล้วชิงเงินจำนวน 1 ถุง (ประมาณ 8.4 ล้านบาท) ใช้รถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป
Read more ...

สน.หลังสองตั้งจุดตรวจจับกุมบุคคลตามหมายจับ

19/6/58
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.58 เวลา 12.00 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ฝ่ายป้องกันปราบปรามสน.หลักสอง ร่วมกันตั้งจุดตรวจป้องกันอาชญากรรม บริเวณวงเวียนอู่ทอง ม.เศรษฐกิจ ตรวจสอบบุคคล พบ

นายวสันต์ หรือ แม็ก รักษ์ทรง อายุ 25 ปี 

บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 128/2558 สภ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าของคดี

ข้อหา บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย, ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตราย และกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นไม่สามารถขัดขืนได้

จึงจับกุมตัวนำส่ง สภ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานีดำเนินคดีต่อไป
Read more ...

สน.ลาดพร้าวจับกุมผู้ต้องหาพกพาอาวุธปืนและพรากเด็ก

18/6/58
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2558

พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว ,
พ.ต.ท.นันทภูมิ เรืองรุ่ง รอง ผกก.ป.สน.ลาดพร้าว
พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ ชัยปฏิยุทธพงศ์ สวป.สน.ลาดพร้าว 
สายตรวจ สน.ลาดพร้าว ร่วมกันจับกุม

นาย ไพจิตร กิจกาญจน์ อายุ 59 ปี
ของกลาง

- อาวุธปืนบาเรตต้า ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
- กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 19 นัด (บรรจุในรังเพลิงลักษณะพร้อมใช้งาน)

โดยกล่าวหาว่า

1.พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร
2.พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองดูแล โดยปราศจากเหตุอันควร

จากบริเวณห้างเดอะมอลล์บางกะปิ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ

นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว  ดำเนินคดีตามกฎหมาย
Read more ...

สน.พลับพลาไชย 1 จับหมายจับข้อหาชิงทรัพย์

18/6/58
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2558 เวลา 23.00 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.พลับพลาไชย 1 นำโดย
พ.ต.ท.พงศ์ธร พงศ์รัชตนันทน์ รอง ผกก.ป.สน.พลับพลาไชย 1
พ.ต.ท.พิพัฒน์ บุญพิทักษ์ สวป.สน.พลับพลาไชย 1
ร.ต.อ.เด่น บุญอยู่ รอง สวป.สน.พลับพลาไชย 1 พร้อมสายตรวจชุดปฏิบัติการที่ 3 ร่วมกันจับกุม

นายแอน ช้อยชด อายุ 40 ปี

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ฐานความผิด "ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน"

จับกุมจากบริเวณถนนกรุงเกษม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบฯ กทม.

ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ผู้รับผิดชอบคดี ดำเนินการต่อไป
Read more ...

สน.ท่าข้าม จับโจรตระเวนงัดแงะรถ ลานจอดรถห้าง ย่านพระราม2

16/6/58
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2558 

สน.ท่าข้าม แถลงข่าวว่า ด้วยในช่วงเดือน พฤษภาคม ถึง มิถุนายน 2558 ในห้างสรรพสินค้าในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ท่าข้าม ได้มีคนร้ายตระเวนงัดรถยนต์กระบะยี่ห้อ อิซูซุ รุ่น ดี-แม็กและมิว-เซเว่น โดยเข้าไปเอาทรัพย์สินมีค่าภายในรถและบางรายได้สบโอกาสพบกุญแจสำรองในรถก็ได้ลักเอารถไปด้วย พฤติการณ์ของคนร้ายจะใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ในการนำอุปกรณ์พิเศษสอดเข้าไปในประตูบริเวณใกล้กับที่เสียบกุญแจเพื่อให้สลักกุญแจปลดล๊อกและปิดประตูกลับไปเหมือนเดิม ส่วนใหญ่คนร้ายจะเลือกรถที่จอดภายในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ที่มีที่จอดรถจำนวนมากและมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอ เป็นเหตุให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 โดย พล.ต.ต.ชัชวาลย์ วชิรปาณีกูล ผบก.น.9 พ.ต.อ.ศุภโยชก์ ธารีไทย รอง ผบก.น.9 , พ.ต.อ.วันชัย อยู่แสง รอง ผบก.น.9  ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เชิดชาย สัตตบุศย์ ผกก.สน.ท่าข้าม, พ.ต.ท.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล รอง ผกก.สส.สน.ท่าข้าม, พ.ต.ท.ทศพล โชติคุตร์ รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม,  พ.ต.ท.สมพัฒน์ อุ่นคำ สว.สส.สน.ท่าข้า, พ.ต.ต.ยุทธภูมิ ฝอยทอง สว.สส.สน.ท่าข้าม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สืบสวน สน.ท่าข้าม ทำการติดตามสืบสวนจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้จงได้

ต่อมาชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานในคดีและศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาตามเลขหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ จ.385/2558 ลงวันที่ 3 มิถุนายน 2558  

จนเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2558 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนข้างต้นสามารถทำการจับกุม 

นายสมยศ หรือตั้ม ทองคุ้ม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/299-300 หมู่ 4 ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาตามหมายจับนี้

พร้อมด้วยของกลาง

- รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน ถจ-8722 กทม. ซึ่งนายสมยศฯ ยอมรับว่าเป็นรถที่ใช้ในการทำเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้า ย่านพระราม 2 

จับกุมได้ที่ หน้าบ้านพักไม่มีเลขที่ ถนนเลียบคลองหลวง ต.โคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดดังนี้
1.อาวุธปืนพกสั้น CZ ขนาด 6.35 พร้อมซองบรรจุ 2 ซองและกระสุน 14 นัด
2.รถยนต์กระบะอิซูซุ มิว-เซเว่น ทะเบียน ศฮ-5713 กทม.(ที่ถูกลักไป)ปรากฏว่าถูกนำหมายเลขทะเบียน กง-6276 อ่างทอง และพบว่า เครื่องยนต์รถยนต์คันดังกล่าวถูก ถอดไปใส่ไว้กับรถดีแม็กทะเบียน ถย-718 กทม. ซึ่งจอดอยู่ใกล้เคียงกัน
3.รถยนต์กระบะอิซูซุ ดีแม็กทะเบียน ถย-718 กทมมีเครื่องยนต์ของรถอีซูซุมิว-เซเว่น อยู่
4. กล้องถ่ายรูปยี่ห้อ โอลิมปัส เลนสซ์กล้องถ่ายรูป 1 ชุด

5. ทรัพย์สินรายการอื่นอีกหลายรายการที่ได้มีการแจ้งไว้ก่อนทำการจับกุม

ซึ่งสิ่งของดังกล่าวข้างต้นนั้น นายสมยศฯ ได้ยอมรับว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการตระเวนงัดรถกระบะตามลานจอดรถห้างสรรพสินค้า ย่านพระราม 2 จริง จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหานี้พร้อมของกลาง อีกทั้งได้ตรวจยึดทรัพย์สินดังกล่าวพร้อมบันทึกตรวจยึดยึดนำส่งพนักงานสอบสวนสนดำเนินดีตามกฎหมายต่อไป
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริง และ ยอมรับว่าตนเองได้ตระเวนงัดรถตามลานจอดรถบริเวณห้างสรรพสินค้าจริง
Read more ...

ผู้หมวดสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ สกัดจับ 2 โจรวิ่งราวจนตัวเองบาดเจ็บ จับได้ 1

16/6/58

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่14 มิ.ย.58 เวลา 11.00 น.  ร.ต.ท.สัญญา จงเกิดผล รอง สว.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ จับกุม


1. นายวิรุณ วงษ์ทองคำ อายุ 20 ปี 


ผู้ต้องหาก่อเหตุ วิ่งราวทรัพย์ บริเวณปากซอย ประชาอุทิศ 25 แขวงและเขต ราษฎร์บูรณะ กทม. 


พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาวคาดม่วง ทะเบียน พษน 351 กทม. ของคนร้าย 


ส่วนคนร้ายอีก 1 คนวิ่งหลบหนีไปได้


ร.ต.ท.สัญญา กล่าวว่า ช่วงเช้า ในพื้นที่ของ สน.บางมด มีผู้เสียหายถูกคนร้าย 2 คน กระชากสร้อย จำหมายเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ได้ พษน 351 กทม. ตนจึงออกตราหาคนร้ายในพื้นที่ และพบชาย 2 คน 

-คนขับสวมหมวกนิรภัยแบบครึ่ง ใบสีดำ เสื้อยืด สีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ ขายาว

-คนซ้อนสวมหมวกนิรภัยแบบครึ่ง ใบ สีขาว เสื้อยืดสีเทา กางเกงยีนส์ 

ขับรถ จยย.ทะเบียนดังกล่าว


ระหว่างติดตาม ชายทั้งสองได้ก่อเหตุ กระชากสร้อยคอทองคำผู้เสียหายที่นั่งอยู่บนรถสองแถวสีแดง วิ่งระหว่าง สุขสวัสดิ์-วัดทุ่งครุ ต่อหน้าตนเอง


ตนจึงตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดขวางรถคนร้าย แต่คนร้ายไม่ยอมจอด ขับพุ่งชนตน จนรถล้มลง ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย เมื่อตั้งสติได้จึงรีบเข้าจับกุมคนร้าย สามารถจับกุมคนร้ายได้ 1 คน คือ นายวิรุณ คนขับรถ แต่คนร้ายอีก 1 คนวิ่งหลบหนีไปได้" 


ตำรวจจึงแจ้งข้อหาว่า วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ พร้อมสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป

Read more ...

สน.พลับพลาไชย2 จับผู้ต้องหาชิงทรัพย์รถ จยย.

16/6/58
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.58 เวลา 22.15 น. ตำรวจชุดจู่โจม สน.พลับพลาไชย 2 ออกตรวจตราพื้นที่รับผิดชอบได้พบผู้เสียหายกำลังขับขี่ รถ จยย.ติดตามผู้ต้องหา 2 คน ที่กำลังขับขี่ รถ จยย.ของตนที่ถูกประทุษร้ายไป คือ

1. นายวรวิช  รื่นพิทักษ์ อาย 18 ปี ผู้ขับขี่

2. นายเบียร์ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง คนซ้อนท้าย

โดยร้องตะโกนเสียงดัง ติดตามจากถนนไมตรีจิตต์มุ่งหน้าหัวลำโพงตัดเข้า ถนนพระราม 4 เข้ามิตรภาพไทย-จีน 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไล่ติดตามในทันที และ รถจยย. ทั้ง 2 คัน  เบียดกัน จนล้มลงบริเวณหน้าร้านเซเว่น ฯ สาขาตรีมิตร และผู้เสียหาย เข้ากอดปล้ำนายวรวิช ส่วนนายเบียร์ วิ่งหลบหนีไป 

เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัว ควบคุมทั้งสองฝ่าย ผู้เสียหายยืนยันว่า นายวรวิช และนายเบียร์  ที่วิ่งหลบหนีไป ได้ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์ รถ จยย.ของกลาง เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.58 เวลาประมาณ 01.20 น.เหตุเกิดท้องที่ สน.ปทุมวัน  ตามปจว.ข้อ 1 ลง 10 มิ.ย.58 เวลา 02.30 น. 

และจากการสอบถามนายวรวิท  ก็ยอมรับว่า ได้ร่วมกับพวกที่หลบหนี 4-5 คน  ทำร้ายร่างกายและชิงเอาทรัพย์รถทจยย.ของกลางไปจากผู้เสียหายจริง

เหตุเกิด ตรงข้ามศาลแรงงานกลาง ถ.พระราม 4 เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.58 เวลาประมาณ 01.20 น. 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัว นายวรวิช  รื่นพิทักษ์  อายุ 18 ปี. 

พร้อมของกลาง 

- รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน รกม 960 กท. จำนวน 1 คัน

ข้อหา " ลักทรัพย์หรือรับของโจร" 

นำส่ง พงส.สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีต่อไป
Read more ...

สน.ปทุมวันจับกุมบุคคลตามหมายจับ

15/6/58
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2558  เวลา  04.00 น.    
พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ บุญเต็ม สวป.สน.ปทุมวัน , ร.ต.อ.สุเจต บุญคง รอง สวป.ฯ , 
ด.ต.ชัยพิชิต อ่อนปลา พร้อมชุดจู่โจม สน.ปทุมวัน ได้ร่วมกันจับกุมตัว                                                   

นายพัฒนพงษ์  ผาพรม อายุ 23 ปี  อยู่ที่190 หมู่ที่ 7 ตำบลสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์

ข้อหา “ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานได้รับอันตรายสาหัส” 

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.249/58 ลงวันที่ 9 เมษายน 2558

พฤติการณ์ในการจับกุม 
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เบาะแสมาว่า นายเอ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ดังกล่าวปรากฎตัวอยู่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จึงได้เฝ้าสังเกตและติดตามตัวผู้ต้องหามาโดยตลอด

กระทั่งวันและเวลาที่เกิดเหตุ พบนายเอ ผู้ต้องหาที่บริเวณดังกล่าว จึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาดูและยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา แจ้งสิทธิ จับกุมผู้ต้องหาส่ง พงส. ดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป

สถานที่จับกุม บริเวณทางเท้าหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์  ถ.ราชดำริ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
Read more ...

จับผู้หมวดซื้อยาบ้าริมโขง 6,000 เม็ด

14/6/58

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2558 

ตำรวจ สภ.ปากชม , ตชด.247 และทหารพราน สนธิกำลังวางแผนจับกุมพ่อค้ายาบ้า

บริเวณริมน้ำโขงศาลาพักศพป่าช้าบ้านหาดคัมภีร์ (แก่งจันทร์) หมู่ 1 ต.หาดคัมภีร์ อ.ปากชม 

พบรถยนต์กระบะอีซูซุแค๊ปสีดำ ทะเบียน บฉ 556 เลย ขับมาจอดบริเวณศาลาที่พักริมถนน จากนั้นคนขับได้เดินลงไปที่ริมแม่น้ำโขง โดยมีชายคนหนึ่งอยู่บนเรือยื่นสิ่งของให้ เมื่อชายดังกล่าวหยิบของแล้วได้เดินขึ้นมา เจ้าหน้าที่ที่แอบซุ้มอยู่ ได้แสดงตัวขอตรวจค้น ทราบชื่อ 

ร.ต.ท.เฉลี่ยง บุญประกอบ รอง สว.(ป) สภ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู 

ตรวจสอบสิ่งของเป็นห่อพลาสติกพบ

ยาบ้าจำนวน 2 มัด 6,000 เม็ด

โดย ร.ต.ท.เฉลี่ยง รับสารภาพว่ามาซื้อยาบ้าเป็นครั้งที่ 2 แล้ว จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
Read more ...

ออกหมายจับอีก 4 ตำรวจสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ค้ายาบ้า

14/6/58
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2558 เวลา 19.00 น.

พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ด.ต.บุญสืบ ชุ่มยิ้ม ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมภรรยา ที่ก่อเหตุนำยาบ้า ที่จับกุมได้จากผู้ค้ายาบ้าในพื้นที่ ไปจำหน่ายเสียเอง

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า มีตำรวจอีก 4 คน ร่วมกระทำความผิด จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกหมายจับ  ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ได้แก่


1. ร.ต.ท.มานพ เอี่ยมสำอาง อายุ 46 ปี รอง สว.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา

2. ร.ต.ต.ประมาณ วอนกล่ำ อายุ 54 ปี รอง สวป. ช่วยราชการงานสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา

3. ด.ต.ทรงวุฒิ แสนใจ อายุ 50 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา

4. ด.ต.ฉลวย กลิ่นโกสุม อายุ 44 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา

ในข้อหา

- เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  
- เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังเอาทรัพย์สินและสิ่งผิดกฎหมายซึ่งเป็นของกลาง  
- มียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย

ต่อมา พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 ได้มีคำสั่งให้ตำรวจทั้งสี่นายดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งทั้งหมดได้หลบหนีไปแล้ว  โดยจะมีการติดตามจับกุมมาดำเนินคดี

และมีคำสั่งให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหาทั้งหมดมาช่วยราชการ จำนวน 3 ราย ได้แก่ พ.ต.อ.ภูมิสิทธิ์ นาวัง ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา, รอง ผกก. และ สารวัตรสืบสวน ฐานเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง แต่ปล่อยปละละเลยจนผู้ใต้บังคับบัญชาไปกระทำความผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง
Read more ...

จับตำรวจสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ค้ายาบ้า 12,000 เม็ด

12/6/58
 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.58 เวลา 19.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.ปพ.ภ.1 ได้ล่อซื้อยาเสพติดจาก

นายอำพล สรรพวุธ

จำนวน 2,000 เม็ด โดยนัดกันส่งมอบที่บริเวณริมถนนสาย 347 บริเวณสะพานเกาะเกิด (ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ต.เกาะเกิด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

จากการสืบสวนสอบสวนขยายผลทำให้ทราบว่านายอำพลฯ เป็นเครือข่ายของ

ด.ต.บุญสืบ ชุ่มยิ้ม ผบ.หมู่ งานสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา

และนายอำพล สามารถติดต่อสั่งซื้อยาบ้าจาก ด.ต.บุญสืบ ได้อีก

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปพ.ภ.๑ , 
กก.สส.ภ.จว.สระบุรี ,สภ.พระนครศรีอยุธยา 

จึงร่วมกันวางแผน จับกุม

โดยให้นายอำพลฯ สั่งซื้อยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด จาก ด.ต.บุญสืบฯ โดยให้นำมาส่งที่บริเวณสถานีน้ำมันบางจาก ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จว.พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 12 มิถุนายน 58 เวลาประมาณ 14.30 น.

เมื่อถึงเวลานัดหมาย 

ด.ต.บุญสืบฯ 

และ

นางสาวกาญจนาหรือดา ปินตา

ได้ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีดำ ทะเบียน ชภ 5700 กทม. มายังบริเวณจุดนัดหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตนเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบ 

ยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด 

อยู่ในรถที่ ด.ต.บุญสืบฯ และ นางสาวกาญจนาฯ ขับมา 

จากการซักถามขยายผลทำให้ทราบว่า ด.ต.บุญสืบฯ ได้นำยาบ้าจำนวน 8,000 เม็ดไปซุกซ่อนไว้ ที่บ้านเลขที่ 28/1 หมู่ 7 อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านมารดาของ ด.ต.บุญสืบฯ

จึงขยายผลไปตรวจยึดไว้ได้ นอกจากนี้จากการเข้าตรวจสอบบ้านพักและร้านอาหารของ ด.ต.บุญสืบฯ และนางสาวกาญจนาฯ สามารถยึดทรัพย์เป็น

- เงินสดจำนวน 231,500 บาท และ
- อาวุธปืนพกสั้น จำนวน 2 กระบอก 

จึงจับกุมตัว ด.ต.บุญสืบฯและนางสาวกาญจนาฯดำเนินคดี ในความผิดฐาน

- ร่วมกันพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และ
- ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย และ
- ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต


ส่วนบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดของ ด.ต.บุญสืบฯ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินการต่อไป
Read more ...