ตร.บุรีรัมย์ จับหนุ่มแสบอ้างเป็น ‘พ.ต.ท.’ ใช้ชื่อ กอ.รมน.รีดเงิน 5 หมื่น ช่วยวิ่งหลุดคดียาเสพติด

27/6/61
 
โดยข่าวสด เมื่อ 28 เมษายน 2561

วันที่ 28 เม.ย.

พ.ต.ท.ชัยยา แก้วยก สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์

คุมตัว

นายชนะกันต์ ดาวสันเทียะ อายุ 35 ปี ชาว ต.บ้านกอก อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ผู้ต้องหาคดี ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน มาสอบสวนหลังจากถูก ตำรวจชุดปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ตามจับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.นครราชสีมา

โดย พ.ต.ท.สมยศ พื้นชัยภูมิ ปฏิบัติหน้าที่ ศอ.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก เจ้าหน้าที่ ได้ติดตามกลุ่มนักค้ายาเสพติด ที่นำยาบ้ามาส่งในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และสามารถจับกุมคนร้ายพร้อมขยายผลไปล่อซื้อในหลายจังหวัดในเขตภาคอีสาน ได้ของกลางในแต่ละพื้นที่เป็นจำนวนมาก

ต่อมามีญาติผู้ต้องหายาเสพติด มาติดต่อขอพบ พ.ต.ท.สยาม เกียรติบรรจง ชุดขยายผลปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.บุรีรัมย์ พร้อมกับนำเงินสดมามอบให้ 20,000 บาท สร้างความสงสัยและมึนงงให้กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเป็นอย่างมาก

พ.ต.ท.สมยศ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาสอบสวนจนทราบว่า ก่อนหน้าได้โอนเงินให้บุคคลคนหนึ่งไปจำนวนเงิน 30,000 บาท เนื่องจากมีคนโทรมาอ้างว่าเป็น

”รองสยาม” หรือ พ.ต.ท.สยาม เกียรติบรรจง 

ว่าสามารถช่วยเหลือคดียาเสพติดได้ แต่มีค่าใช้จ่าย 50,000 บาท ตกลงจ่ายก่อน 30,000 บาท ที่เหลือให้มาจ่ายอีกที่บุรีรัมย์ จึงนำเงินมาจ่ายให้ตามสัญญา

ต่อมา พล.ต.ต.ชัยยุทธ เจียรศิริกุล ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามผู้ที่อ้างตนเป็นตำรวจหลอกให้โอนเงินมาดำเนินคดี เพราะเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการตำรวจ จนสามารถจับกุมนายชนะกันต์ ได้ที่บ้านพักในพื้นที่โคราช

จากการสอบสวน นายชนะกานต์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนโทรศัพท์แอบอ้างเป็นตำรวจจริง พร้อมให้การว่าตนเองเล่นอินเตอร์เน็ตกับโทรศัพท์ ก่อนเห็นเพจ”แจ้งข่าวชาวบุรีรัมย์”แจ้งเตือนขึ้นมา จึงกดเข้าไปดูพบว่ามีข่าวสารมากมาย และไปพบว่ามีการจับกุมยาเสพติด จึงเอาชื่อคนร้ายไปหาข้อมูลญาติผู้ต้องหาและตำรวจ จนกระทั่งรู้เบอร์โทรศัพท์ของญาติผู้ต้องหา

นายชนะกานต์ รับสารภาพต่อว่า จากนั้นได้โทรไปแอบอ้างว่าเป็นตำรวจว่าสามารถช่วยเหลือทางคดีได้ โดยใช้บัญชีธนาคารของเพื่อนน้องสาว ที่ฝากไว้ให้น้องสาวมานานแล้ว แต่ไม่เคยทำมาก่อนครั้งนี้เป็นครั้งแรก ส่วนเงินที่ได้รับโอนได้เอามานั้น ได้มอบให้ตำรวจไว้แล้ว 10,000 บาท ส่วนที่เหลือจะใช้คืนให้ผู้เสียหายจนครบจำนวน 50,000 บาทต่อไป

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของงผู้ต้องหาว่าเคยก่อเหตุเป็นครั้งแรก เบื้องต้นแจ้งข้อหา

ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่า จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน 

ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนอย่างละเอียดก่อนคุมตัวขออำนาจศาลเพื่อฝากขังต่อไป
Read more ...

บุกจับ “ร.ต.อ.” กลางโรงพักสุทธิสาร พัวพันค้ายา สั่งฟันให้ออกราชการทันที

18/6/61
โดยข่าวสด เมื่อ 18 มิถุนายน 2561 - 21:43 น.

บุกจับ “ร.ต.อ.” กลางโรงพักสุทธิสาร พัวพันค้ายา หลังเครือข่ายโดนรวบ ก่อนขยายผลพร้อมออกหมายจับ ผบก.น.2 สั่งฟันให้ออกราชการทันที พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน ผู้บังคับบัญชาก็โดนด้วย

บุกจับ วันที่ 18 มิ.ย. ที่ บช.ปส. พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ปส.2 พร้อมด้วย น.ส.ทัศพร เขี่ยวพานิช เจ้าพนักงาน ปปส.2 และตำรวจนครบาล ร่วมกันจับกุมตัว 

ร.ต.อ.สัมพันธ์ กันทะสอน อายุ 38 ปี ตำแหน่งรอง สวป.สน.สุทธิสาร 

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 225/2561 ลงวันที่ 18 มิ.ย.61 ข้อหาร่วมกันมียาเสะติดประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะตามเหตุที่ได้มีการสมคบกันแล้ว โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ สน.สุทธิสาร เมื่อเวลา 19.00 น. ระหว่างที่กำลังมาเข้าเวร

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ปปส.2 ได้จับกุมตัวนายอนุสรณ์ ทองสว่าง และ น.ส.อี่กองคำ สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลางไอซ์ 11.52 กรัม ยาเค 50.38 กรัม ยาอี 6 เม็ด ยาบ้า 6 เม็ด โดยสามารถจับกุมได้ที่ร้านไปรษณีย์ แคนดี้ โพสต์แอนด์เพย์ เซอร์วิส แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. ต่อเนื่องขนิษฐาแมนชั่น ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 20 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.

เนื่องจากชุดจับกุมรับแจ้งจากสายลับมีการเจรจาซื้อยาเสพติดกับผู้ใช้ไลน์ ZZZ ในกลุ่มไลน์ชื่อประจานคนโกง N&N อ้างว่ายังไม่ได้รับยาเสพติดตามที่ตกลงซื้อขายส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่ ปปส. จึงได้ตรวจสอบพบว่านายอนุสรณ์ เป็นผู้มาส่งพัสดุดังกล่าว

ต่อมาวันที่ 26 เม.ย. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เฝ้าสังเกตที่ร้านดังกล่าว นายอนุสรณ์ นำซองพัสดุ 2 ซองจะมาส่งจึงตรวจค้นพบยาเสพติดอยู่ในซองพัสดุที่นำมาส่ง ก่อนขยายผลตรวจค้นห้องพักที่ขนิษฐาแมนชั่น พบยาเสพติดเพิ่มเติมอีกส่วน และจับกุม น.ส.อี่กองคำ ซึ่งอยู่ในห้องขณะตรวจค้น จากการสอบสวนนายอนุสรณ์ ให้การอ้างว่ารับยาเสพติดของกลางมาจากผู้กองต๋อง หรือ ร.ต.อ.สัมพันธ์ จันทะสอน จึงขออนุมัติเลขาธิการ ปปส. และประสาน บช.ปส.2 ขออนุมัติ จนสามารถติดตามจับกุมได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน ร.ต.อ.สัมพันธ์ กล่าวว่า ยอมรับว่ารู้จัก นายอนุสรณ์ มาประมาณ 1 ปี ซึ่งนายอนุสรณ์ เคยเป็นเจ้าของสถานบันเทิงซึ่งเปิดอยู่ในพื้นที่ สน.สุทธิสาร ที่ตนไปตรวจอยู่เป็นประจำ ส่วนเงินที่อยู่ในบัญชีของตนกว่า 1 แสนบาทนั้น ได้มาจากการเล่นแชร์ ตนขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหา 2 รายมีพฤติการณ์ส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ จึงขยายผลทั้งเส้นทางการเงินและเส้นทางการสื่อสารพบว่ามีความเชื่อมโยง รองสวป.ดังกล่าวจริง จากนั้นได้รวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลเพื่ออกหมายจับ โดยการจับกุมครั้งนี้ร่วมกับทาง บช.น. บก.น.2 และ สน.สุทธิสาร วางแนวทางร่วมกันจับกุม ทั้งนี้รองสวป.ดังกล่าวเป็นชุดจู่โจม ฝ่ายป้องกันปราบ สน.สุทธิสาร

ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่ามีหน้าที่เป็นเอเย่นต์จัดหายาเพื่อให้คนไปส่งของทางไปรษณีย์อีกทอดหนึ่ง ซึ่งรองสวป.ยังให้การปฏิเสธในตอนนี้ จึงยังไม่ถือว่าเป็นผู้ต้องหา แต่ถ้าเจ้าหน้าที่มีหลักฐานพอที่จะดำเนินคดี และขยายผลไปยังผู้อยู่เบื้องหลัง ทั้งการรับยาจากใคร และจะได้จับกุมขบวนการดังกล่าวต่อไป

ต่อมาเมื่อเวลา 20.40 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจาก พ.ต.อ.เติมเผ่า ศิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร แล้ว เบื้องต้นได้สั่งให้ ร.ต.อ.สัมพันธ์ ออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง รวมถึงให้รายงานตัวต้องคดีอาญากับผู้บังคับบัญชาด้วย

ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชาในระดับ สวป., รอง ผกก.ป. และ ผกก. ต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงด้วย ตามคำสั่ง 1212/2537 เนื่องจากปล่อยปะละเลยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปกระทำความผิด
Read more ...